Onlinenewstime.com : หลังพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) ที่แคมป์ก่อสร้างหลักสี่ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นการตรวจพบครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้สังคมมีความวิตกกังวลกันอย่างมาก จากเดิมที่มีการระบาดใน “สายพันธ์ุอู่ฮั่น” และตามมาด้วย “สายพันธ์ุอังกฤษ”ในการระบาดระลอกเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ณ ศูนย์แถลงข่าว โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ถึงแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ทั้ง “การแพร่ระบาด-ความรุนแรงของโรค-การตอบสนองต่อวัคซีน” ว่า
สายพันธุ์นี้ ที่เรามีข้อมูลมากที่สุดเป็นข้อมูลจากประเทศอังกฤษ จากหน่วยงาน Public Health England ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมโรคใประเทศอังกฤษ รายงานว่า สายพันธุ์นี้
“การแพร่กระจายโรค” ไม่ได้แตกต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ แสดงว่า สายพันธุ์อังกฤษกับสายพันธุ์อินเดีย ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อไม่แตกต่างกัน”
“ความรุนแรงของโรค” ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า สายพันธุ์อินเดีย มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ
“การไม่ตอบสนองต่อวัคซีน” หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ดื้อต่อวัคซีน พบว่ายังไม่ดื้อต่อวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนหลักที่เราใช้ คือ แอสตร้าเซนเนก้า ยังสามารถป้องกันได้
ตัวอย่างที่เห็นคือ ประเทศอังกฤษใช้แอสตร้าเซนเนก้า เป็นหลัก ปรากฏว่าการระบาดลดน้อยลง โดยที่อังกฤษมีทั้งสายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์อังกฤษอยู่จำนวนมาก
พร้อมย้ำถึง รายละเอียดต่างที่กล่าวมานั้น เป็นข้อมูลที่ได้ตรวจสอบ และเป็นข้อมูลในเชิงวิชาการที่ได้รับมา
โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบในเขตกรุงเทพฯ กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดทีมลงไปสนับสนุนกรุงเทพฯ ในการควบคุมโรค ติดตามผู้สัมผัส และค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก รวมถึงสนับสนุนการรักษาพยาบาลในจุดต่างๆอีกต่อไป
กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าว : ประเด็น “การพบเชื้อกลายพันธุ์คลัสเตอร์หลักสี่”