fbpx
News update

อลิอันซ์ อยุธยา โตสวนกระแสเศรษฐกิจ ดันเบี้ยประกันสุขภาพครึ่งปีแรกโต 5%

Onlinenewstime.com : บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรก เติบโตแข็งแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว จากพิษโควิด 19 สร้างเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในสินค้าสุขภาพเติบโต 5% พิสูจน์ความสำเร็จทุกช่องทางการขาย พลิกกลยุทธ์ขาย ด้วยเครื่องมือดิจิทัลแบบ New Normal พร้อมโตธุรกิจประกันสุขภาพ 10% สิ้นปี 63

นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรก 2563 ถือเป็นครึ่งปีที่ท้าทายมากสำหรับทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจประกันชีวิต เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19  หากแต่ อลิอันซ์ อยุธยา ยังสามารถสร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างเบี้ยประกันรับปีแรก ในกลุ่มประกันสุขภาพเติบโตถึง 5% อยู่ที่ 1,057 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 477 ล้านบาท เติบโตถึง 16.3%

เบี้ยสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากกลยุทธ์การปรับตัวที่รวดเร็วในยุค New normal ที่นำเอาแอพลิเคชั่น Allianz Discover เครื่องมือช่วยขายแบบดิจิทัลบนโมบาย มาสนับสนุนการขาย แบบไม่ต้องพบลูกค้า (Non Face-to-Face) ทำให้ยังสามารถขับเคลื่อนการขายได้อย่างดี ในช่วงวิกฤตโควิด 19 

และพฤติกรรมของประชาชน ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และการมีประกันสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกัน เพื่อการคุ้มครองสุขภาพมาหลายปีแล้ว

ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤติขึ้น เบี้ยประกันภัยรับปีแรกของบริษัท จึงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 0.1% อยู่ที่ 2,825 ล้านบาท”

จากสถานการณ์ โควิด 19 ส่งผลให้ลูกค้าใช้บริการออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นมาก เบี้ยประกันภัยรับปีแรกสินค้าสุขภาพ ช่องทางดิจิทัลเติบโตถึง 13.35% อยู่ที่ 13 ล้านบาท และมีการสมัครกู้เงินจากกรมธรรม์ผ่านแอปพลิเคชัน My Allianz โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มียอดลูกค้าสมัครกู้เงินจากกรมธรรม์ เพิ่มสูงขึ้น จาก 840 คน เป็น 2,760 คน สูงขึ้นกว่า 330%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่กำลังเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลกำไรจากการดำเนินการของอลิอันซ์ ในครึ่งแรกของปี 2563 ลดลง 4.3% อยู่ที่ 249 ล้านยูโร (ประมาณ 8.7 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 12.7% มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านยูโร (1.26 แสนล้านบาท)

ผลกำไรจากการดำเนินงาน ในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพลดลง 9.1% มาอยู่ที่ 191 ล้านยูโร (6.7 พันล้านบาท) โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกลดลง 7.7% อยู่ที่ 447 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)

สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้นในไต้หวัน อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในอินโดนีเซียและมาเลเซีย สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม รายได้จากประกันวินาศภัยเพิ่มขึ้น 21.3% มาอยู่ที่ 659 ล้านยูโร (2.3 หมื่นล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 16% อยู่ที่ 58 ล้านยูโร (2 พันล้านบาท) โดยได้รับอานิสงส์จากตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงกำไรที่ดี จากตลาดจีน มาเลเซีย และไทย

ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานของประกันวินาศภัย เป็นผลมาจากกำไรที่เพิ่มขึ้นในมาเลเซีย ศรีลังกา และไทย ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ 97.3% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 จากอัตราส่วนค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น

นาย โซลมาส อัลทิน ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคของ อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ในแต่ละประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน กระทบการใช้จ่าย รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในครึ่งแรกของปี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออุปสงค์ของสินค้าและบริการ

นอกจากนั้น ในเดือนมีนาคม อลิอันซ์ ได้ร่วมลงทุน ในธุรกิจประกันชีวิตกับ AEON Financial Service (AFS) เพื่อพัฒนาและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต แก่ผู้บริโภคในญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ อลิอันซ์ ได้รับใบอนุญาต เพื่อขยายตลาดในสิงคโปร์ โดยเน้นที่ลูกค้ากลุ่มค้าปลีกและ SME โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้”

“ก่อนที่เราจะขยายไปสู่ธุรกิจประกันชีวิต เรามีแผนการที่จะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัย เข้าสู่ตลาด โดยใช้ช่องทางการจำหน่ายต่างๆ เช่น ธนาคาร เอเย่น ผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงิน โบรกเกอร์ และหุ้นส่วนทางธุรกิจ” นายโซลมาส กล่าวทิ้งท้าย