สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติเผย องค์การนาซาแถลงข่าวการค้นพบมหาสมุทรแห่งใหม่บนดวงจันทร์เอนเซลาดัส ดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์พบหลักฐานชี้ชัด น้ำ แหล่งพลังงาน และสารเคมี ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เป็นหลักฐานสำคัญอีกครั้งหนึ่งที่ยืนยันว่าโลก อาจจะไม่ใช่ที่เดียวในระบบสุริยะที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ และมีโอกาสเจอสิ่งมีชีวิตนอกโลก
เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐอเมริกา หรือนาซา แถลงข่าวการค้นพบ “มหาสมุทร 2 แห่งในระบบสุริยะ” ซึ่งเป็นข้อมูลการค้นพบจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และยานสำรวจอวกาศแคสสินี
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยทีมงานกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลค้นพบหลักฐานว่า “ ดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดี” มีพวยของเหลวพุ่งขึ้นสูงประมาณ 100 กิโลเมตร จากผิวของดวงจันทร์ยูโรปา
โดยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ทีมงานยานสำรวจอวกาศแคสสินี ได้บังคับยานให้โคจรผ่านพวยน้ำที่พุ่งออกมาจากดวงจันทร์เอนเซลาดัสของดาวเสาร์ และค้นพบแก๊สไฮโดรเจนมากมายในพวยน้ำที่พุ่งออกมา
ซึ่งคาดว่าแก๊สไฮโดรเจนเหล่านี้อาจเกิดจากกระบวนการทางเคมีระหว่างหินและน้ำในมหาสมุทรของดวงจันทร์ดวงนี้ ทำให้เกิดแก๊สไฮโดรเจน คล้ายกับกระบวนการที่เกิดใต้มหาสมุทรบนโลก แก๊สไฮโดรเจนนี้ อาจเป็นแหล่งพลังงานของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากสิ่งมีชีวิตประเภทแบคทีเรียสามารถใช้แก๊สไฮโดรเจนร่วมกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายในน้ำในการสร้างพลังงาน
นับว่าการค้นพบครั้งนี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ที่เคยค้นพบเมื่อ 2 ปีก่อน และอยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่ยานอวกาศกาลิเลโอ สังเกตเห็นรอยแตกบนผิวดวงจันทร์ยูโรปาเมื่อสิบปีมาแล้ว
อย่างไรก็ตามในอนาคตนาซากำลังวางแผนดำเนินโครงการยูโรปาคลิปเปอร์ ที่จะส่งยานอวกาศไปศึกษาดวงจันทร์ยูโรปาอย่างละเอียด ซึ่งยานสำรวจอวกาศแคสสินียังไม่มีอุปกรณ์เพียงพอที่จะตรวจวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์เอนเซลาดัสได้ จำเป็นที่จะต้องมีโครงการส่งยานคล้ายกับโครงการยูโรปาคลิปเปอร์ไปสำรวจดวงจันทร์เอนเซลาดัสในอนาคต