Onlinenewstime.com : นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกรปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 2.60 บาทต่อฟอง ลดลงจาก 2.80 บาทเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากปริมาณผลผลิตไข่ไก่ส่วนเกิน สะสมมากนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากสถานการณ์ไข่ขาดแคลนในช่วงก่อนนี้ จากการเร่งกักตุนของประชาชนและพ่อค้าคนกลางคลี่คลายลง
ขณะที่ผู้บริโภคต่างทยอยเคลียร์สต๊อกไข่ ด้วยการบริโภคในครัวเรือนให้หมดก่อน ผนวกกับกำลังซื้อที่ลดลงของประชาชน ส่งผลให้ตลาดไข่ไก่ซบเซาเป็นอย่างมาก กระทบโดยตรงกับเกษตรกร ที่ต้องขายไข่ไก่ในราคาต่ำลง
ปัจจุบันเกษตรกรและผู้ประกอบกา รยังคงดำเนินการตามมาตรการของภาครัฐ ทั้งการยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ไข่จากเดิม 80 สัปดาห์ออกไป และการงดส่งออกไข่ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนศกนี้ ส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น จนเกินความต้องการทุกวัน
“ในห่วงโซ่การผลิตไข่ไก่ นอกจากเกษตรกรในฐานะผู้ผลิตแล้ว ยังมีพ่อค้าคนกลางเป็นตัวแปรสำคัญในการปล่อยไข่ไก่ออกสู่ตลาด หรือเก็บกักไข่ในห้องเย็นเพื่อเก็งกำไร หรือเทขายหากคาดการณ์ว่าราคาไข่จะตกลง
จึงอยากขอให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบกลุ่มพ่อค้าคนกลางหรือล้งไข่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้เกษตรกรภาคใต้ ยังกังวลกับปัญหาการส่งไข่ไก่ มาดั๊มพ์ตลาดของพ่อค้าอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ที่เมื่อไข่ราคาถูก ก็จะขนไข่ลงใต้จำนวนมากเกินความต้องการในพื้นที่ กระทบเกษตรกรใต้อย่างรุนแรง” นายสุเทพ กล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ กล่าวอีกว่า ไข่ไก่เป็นสินค้าอ่อนไหว เมื่อมีอะไรมากระทบ มักเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าปัจจัยที่กระทบนั้น ไม่ใช่วิถีปกติตามธรรมชาติ เช่นเกิดความตระหนกของประชาชน หรือการกักเก็บเพื่อทำกำไรของพ่อค้าคนกลาง หรือการแทรกแซงกลไกตลาดไข่ไก่ ล้วนก่อให้เกิดผลเสียต่อเกษตรกรผู้ผลิตไข่ไก่มากขึ้น ดังเช่นการห้ามระบายผลผลิตส่วนเกิน ออกนอกประเทศ ซึ่งทำให้เกิดภาวะไข่ล้นตลาดดังเช่นปัจจุบัน
ทั้งๆที่การระบายไข่ไก่ไปขายต่างประเทศ ต้องขายในราคาขาดทุน เช่นในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีนี้ ไทยส่งออกไข่ลดลงไปกว่าครึ่ง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยราคาส่งออกเฉลี่ยฟองละ 2 บาท ยังไม่รวมต้นทุนค่าจัดการต่างๆ ถือเป็นการขายขาดทุน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศ ไม่ให้ตกต่ำจนเกษตรกรต้องเดือดร้อน