Onlinenewstime.com : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะเด็กปฐมวัยมีเวลาในการกินอาหารที่เหมาะสมต่อมื้อ ไม่ควรต่ำกว่า 30 นาที และกินครบ 5 หมู่ หลากหลาย ควบคู่กับการออกกำลังกายและนอนหลับสนิท 9 – 11 ชั่วโมงต่อวัน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว เรื่องอดีตครูผู้ช่วยโรงเรียนแห่งหนึ่งให้เด็กเล็กกินอาหารกลางวันแค่ 5 – 7 นาที ก่อนเดินเก็บถาดอาหาร และเทเศษอาหารที่เหลือทิ้งโดยไม่สนใจว่าเด็กจะกินอาหารอิ่มหรือไม่นั้น
โดยปกติแล้วเด็กปฐมวัย ควรมีเวลาในการ กินอาหารที่เหมาะสมต่อมื้อ ไม่ต่ำกว่า 30 นาที เพื่อให้สามารถเคี้ยวได้ละเอียดก่อนกลืน ไม่ควรเร่งรีบ เพราะหากเคี้ยวไม่ละเอียด อาจทำให้เกิดเหตุการณ์อาหารติดหลอดลม เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และในขณะเดียวกันเด็กที่มีเวลากินอาหารน้อยเกินไป จะเกิดการเลือกกินมากขึ้น อาจทำให้เด็กไม่กินผัก ผลไม้ ไปจนถึงดื่มนมน้อยลงด้วย
การที่เด็ก กินอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย สมองจะได้รับน้ำตาลกลูโคสไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ร่างกายก็มีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่มีสมาธิในการเรียน อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมได้
“ทั้งนี้ ในแต่ละมื้ออาหารเด็กควรกินให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย เป็นเมนูอาหารที่เหมาะสม ทำได้ง่าย ถูกหลักโภชนาการ อาทิ
1) เมนูข้าวสวย ต้มเลือดหมู ใส่หมูสับ ตับหมู ใบตำลึง และส้ม ล้วนอุดมด้วยธาตุเหล็ก จากเลือดและตับหมู ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เมื่อกินคู่กับผลไม้สดที่ มีวิตามินซี จะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
2) เมนูข้าวไรซ์เบอรี่ ตับไก่ผัดหน่อไม้ฝรั่ง มะละกอสุก คือมีโฟเลทสูง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง ที่อาจเป็นอุปสรรคของการเจริญเติบโต และการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย และ
3) เมนูแซนวิชโฮลวีท อกไก่ ไข่ดาว สลัดผัก กล้วย เป็นเมนูทำง่ายและสะดวก ในการกินระหว่างเดินทาง อุดมด้วยวิตามินบี
หากเด็กปฐมวัยได้รับอาหารกลุ่มนี้อย่างเพียงพอ และกินอาหารครบ 5 หมู่ จะส่งผลให้ร่างกายเจริญเติบโตดี ควบคู่กับการส่งเสริมให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกาย กระโดดโลดเต้น เน้นเล่นสนุกจนรู้สึกเหนื่อยหรือหอบอย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน ฝึกความแข็งแรง และความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อเอ็นและข้อต่อ
นอกจากนี้เด็กปฐมวัย ควรนอนหลับให้สนิท 9 – 11 ชั่วโมงต่อวัน จะส่งผลให้สมองปลอดโปร่ง เกิดประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ดี ควบคู่กับการมีสุขภาพที่แข็งแรงตามมาด้วย” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว