
สลากกินแบ่งรัฐบาล แก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม เตรียมปรับลอตเตอรี่รูปแบบใหม่ จากฉบับคู่ละ 80 บาท เป็นฉบับละ 80 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ป้องกันความสับสน สามารถตรวจสอบได้ง่าย อีกทั้งการเพิ่มระบบป้องกันการปลอมแปลง โดยจะเริ่มในวันที่ 1 กันยายน 2560 นี้
พลโทอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยคณะกรรมการสลาก และพลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงผลงานการดำเนินงานครบรอบ 2 ปี คณะกรรมการสลาก ถือว่าประสบผลสำเร็จ แม้มีบ้างที่ยังมีการทำสลากชุดขายเกินราคา แต่สลากปลีกส่วนใหญ่ขายในราคา 80 บาท
จากนี้ไป จะเป็นการดำเนินการในระยะที่ 3 คือ การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม โดยจะทำการปรับปรุงรูปแบบสลาก จากเดิมฉบับคู่ 80 บาท (ฉบับละ 40 บาท) เป็นฉบับละ 80 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ป้องกันความสับสน สามารถตรวจสอบได้ง่าย และเป็นการปรับรูปแบบสลากให้มีความทันสมัยมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบป้องกันการปลอมแปลงสลาก ด้วยการเพิ่มความคมชัดของลายน้ำบนกระดาษให้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มระบบบาร์โค้ด 2 มิติ (2D Barcode) ที่สามารถสแกนตรวจสอบสลากได้จากเครื่องอ่านบาร์โค้ด และยังถือเป็นการช่วยตรวจสอบการปลอมแปลงตัวเลขสลากหรือสลากแก้เลขในขั้นต้นได้อีกด้วย
สำหรับการบริการด้านการจ่ายรางวัล สำนักงานฯ ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการจ่ายรางวัลสลากผ่านเคาน์เตอร์สาขาของธนาคารกรุงไทย และที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ซื้อสลากมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของการศึกษารูปแบบสลากใหม่นั้น โฆษกคณะกรรมการสลาก ได้กล่าวเพิ่มเติม ว่า สำนักงานฯอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบต่างๆ จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ โครงสร้าง บริบทของสังคมไทยและวิถีชีวิตของประชาชน
ล่าสุดได้ทำการศึกษาสลากของประเทศมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจ จำนวนประชากรและบริบททางสังคมใกล้เคียงกับประเทศไทยมากที่สุด คาดว่าจะนำผลการศึกษาเผยแพร่ ให้สาธารณะชนรับรู้ในเร็วๆ นี้ นั่นเพราะการศึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่และสลากออนไลน์นั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูลรอบด้านและพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาผู้ขายสลากเกินราคาเป็นระบบและมีความยั่งยืนต่อไป