fbpx
News update

เรื่องผิวหนังกับปัญหา PM 2.5

Onlinenewstime.com : ในช่วงเวลาที่ประชาชนให้ความสนใจ กับฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ที่ส่งผลต่อร่างกายในหลายระบบ ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ และ ระบบผิวหนัง โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญต่างก็ออกมาเตือน และให้ความรู้ประชาชน เพื่อการหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเอง ให้ทราบผลเสียของการสัมผัสฝุ่น PM 2.5

บทความจาก พ.ท.หญิง พญ. สุพิชญา ไทยวัฒน์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เพื่อให้ความรู้กับประชาชน ถึงผลกระทบของ PM 2.5 ต่อผิวหนังมนุษย์ รวมถึงวิธีดูแล ป้องกัน และหลีกเลี่ยงเมื่อต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เริ่มตั้งแต่อธิบายว่า อะไรคือฝุ่นมลพิษ PM 2.5

PM คือ particulate matter ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมลพิษ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งโดยปกติมลพิษ จะประกอบไปด้วยสารต่างๆทั้ง PM 2.5, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ส่วน 2.5 มาจากขนาด ที่เล็กเท่ากับ 2.5 ไมครอน

ฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ส่งผลอย่างไรกับผิวหนังมนุษย์

เนื่องจากขนาดที่เล็ก และเบาลอยอยู่ในอากาศ จึงสามารถเข้าสู่ผิวหนังของเราได้โดยตรง ซึ่งภาวะการเกิดมลพิษ เป็นปัญหาในหลายประเทศ และส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งมีงานวิจัยถึง PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังโดยแบ่งได้เป็นสองระยะดังนี้

ผลกระทบระยะเฉียบพลัน

PM 2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวหนังกำพร้าโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบที่มากขึ้นของผิวหนังได้ นอกจากนั้นยังทำลายโปรตีนที่ผิวหนังที่เรียกว่า Filaggrin ซึ่งมีหน้าที่ช่วยป้องกันผิวหนัง (epidermal barrier protein) และเพิ่มการหลั่งสารกระตุ้นการอักเสบที่ผิวหนัง กล่าวโดยรวมคือ PM 2.5 ทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคืองที่ผิวหนังได้โดยตรง หากมีการสัมผัสที่ผิว

ผลกระทบระยะเรื้อรัง

มีงานวิจัยถึงผลของ PM 2.5 ต่อผิวหนังในระยะยาว พบว่าก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่สามารถส่งผลร้ายต่อเซลล์ ทั้งในกระบวนการสร้างเซลล์ ซึ่งส่งผลต่อภาวะความชราของผิวหนัง รวมถึงจุดด่างดำบนชั้นผิวหนัง นอกจากนั้นยังพบการลดลงของการทำงานในระบบภูมิคุ้มกันที่ผิวหนังอีกด้วย

ทั้งนี้การส่งผลกระทบต่อผิวหนังทั้งสองระยะ จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้น และระยะเวลาของการสัมผัส

PM2.5

ความเข้มขันของ PM 2.5 ต้องมีปริมาณเท่าใดจึงส่งผลกระทบต่อผิวหนัง

จากงานวิจัยของประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า PM 2.5 เพียง 10 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร ก็สามารถกระตุ้นการอักเสบของผิวหนังได้ และในปริมาณ ที่สูงมากขึ้น เช่น  50 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร จะก่อให้เกิดผลเสียระยะยาว เช่น ความชราของผิวหนังก่อนวัย และ จุดด่างดำบนผิวหนัง

ระยะเวลาในการสัมผัส นานเท่าใดจึงส่งผลกระทบต่อผิวหนัง

อ้างอิงงานวิจัยในต่างประเทศ PM 2.5 ที่มีผลต่อเซลล์ผิวหนัง โดยการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่า เซลล์ผิวหนังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสัมผัสที่ 50 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ที่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป และตั้งแต่ 6 – 24 ชั่วโมง พบการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นไม่ต่างกัน กล่าวโดยสรุปคือ หากสัมผัส PM 2.5 ในระดับสูง ในช่วงไม่เกิน 2 ชั่วโมง จะยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงมากนัก หลังจากนั้นเซลล์ผิวหนังจะถูกทำลายไปเรื่อยๆ และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในชั่วโมงที่ 6 ขึ้นไป

จะป้องกัน ดูแลตัวเองจาก PM 2.5 อย่างไร ?

ในการดูแลรักษาตนเอง ให้ปลอดภัยนั้น ควรต้องทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัส PM 2.5 ได้แก่ กลุ่มที่ความต้านทานของผิวหนังน้อย เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis), ลมพิษ (urticaria), สะเก็ดเงิน (psoriasis) หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัส งดเว้นการออกไปในบริเวณที่มี ฝุ่นมลพิษปริมาณมาก หรือสัมผัสให้สั้นที่สุด การใส่เสื้อผ้าปกคลุมร่างกาย, การทาโลชั่นหรือครีม, การชะล้างทำความสะอาดผิวหนัง จะมีส่วนช่วยลดทอนการสัมผัสโดยตรงได้

ทั้งนี้เรื่องของฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ถือเป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในหลายๆประเทศ นอกจากประชาชนต้องดูแลตนเองให้พ้นจากผลเสีย แล้ว ยังต้องทำความเข้าใจ และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ศึกษาข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ประกอบเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างมีสติและปลอดภัย