Onlinenewstime.com : ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศไทยนั้น ส่งผลกระทบ อย่างเป็นวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม นอกเหนือจากบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยแล้ว ยังมีกลุ่มคนในสังคมอีกเป็นจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือจากภาวะการขาดแคลนหน้ากากอนามัย
เอไอเอส ในฐานะผู้นำบริการดิจิทัลที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิต และพร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย ในทุกสถานการณ์ จึงได้เดินหน้าโครงการ “อุ่นใจอาสา ภารกิจคิดเผื่อ” สนับสนุนภาครัฐ และภาคประชาสังคม โดยในครั้งนี้ได้รวมพลังพนักงานเอไอเอสทั่วประเทศ ร่วมเป็นอุ่นใจอาสา ทำหน้ากากอนามัย DIY จากผ้า มอบให้กับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เพื่อส่งต่อให้กับผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากมหันตภัยไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “จากความตั้งใจครั้งก่อน ที่เอไอเอส ได้นำหน้ากากอนามัยDIY แบบผ้าไปมอบให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์, พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งสามารถเป็นกำลังใจ และการช่วยเหลือที่ดีมาก ทำให้เรามีพลังใจ ในการสานต่อภารกิจ
และในครั้งนี้เอไอเอส ได้นำหน้ากากอนามัย DIY ไปมอบให้กับผู้บกพร่องทางสายตา ซึ่งหน้ากากอนามัย ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 เพราะผู้บกพร่องทางสายตาไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ ดังนั้นผู้บกพร่องทางสายตาทุกคน ควรมีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
เอไอเอสได้ตระหนักถึงปัญหานี้ และอยากมีส่วนร่วมในการส่งมอบความช่วยเหลือ และกำลังใจดีๆ ให้กับผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ จึงเดินหน้า โครงการอุ่นใจอาสา สานต่อภารกิจคิดเผื่อ เพื่อสังคมไทย ส่งมอบหน้ากากอนามัย DIY จากฝีมือของพนักงานเอไอเอส จำนวน 2,500 ชิ้น ให้กับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยหน้ากากอนามัยที่นำมาบริจาคนี้ ทำจากผ้าสาลูหนา ผ่านการอบฆ่าเชื้อก่อนส่งมอบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน ของผู้บกพร่องทางสายตา”
ด้าน นายพิทยา ศรีโกตะเพ็ชร ที่ปรึกษาสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้เผยถึงความยากลำบาก และอุปสรรคในการเข้าถึงหน้ากากอนามัย ของผู้บกพร่องทางสายตาว่า “ปัจจุบันจำนวนผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ ที่ขึ้นทะเบียนคนพิการกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีจำนวนประมาณ 200,000 คน ในสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ เป็นความเดือดร้อน ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และทุกคนต้องหาทางป้องกันตัวเอง
แต่ผู้บกพร่องทางสายตา จะมีความด้อยโอกาส มากกว่าคนอื่นสองประการ ข้อแรกคือ วิถีชีวิตของผู้บกพร่องทางสายตานั้น การเดินทาง จะต้องใช้การสัมผัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้มีความเสี่ยงสูง และข้อสอง การเข้าถึงหน้ากากอนามัย ซึ่งแม้แต่คนปกติทั่วไปยังหาซื้อยาก ผู้บกพร่องทางสายตายิ่งเข้าถึงยากกว่าคนอื่น หลายเท่าทวีคูณ
โดยเฉพาะอุปสรรค ในการเข้าถึงจุดจำหน่าย และยังมีจำนวนจำกัด ซึ่งหน้ากากอนามัยที่ได้รับมอบนี้ จะนำไปแจกจ่ายให้ผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ ผ่านทางสาขาย่อยของสมาคมฯ เบื้องต้นจะมอบหน้ากากอนามัย ให้คนละ 15 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ 200 มล.
ผมในฐานะตัวแทนของสมาคมฯ รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก และต้องขอขอบคุณเอไอเอส ที่มีโครงการดีๆ ทำให้ผู้บกพร่องทางสายตา มีกำลังใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในภาวะวิกฤตแบบนี้”
ด้าน นางสาววิปณา จันทร์วัฒนเดชากุล ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนตาบอดแห่งชาติ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สาขาภาคกลางตอนบน และในฐานะตัวแทนผู้บกพร่องทางสายตา เผยความรู้สึกว่า “ทุกวันนี้ ได้รับผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะต้องเดินทางมาทำงานที่สมาคมฯ ด้วยรถประจำทาง ขนส่งสาธารณะ ทำให้มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกวัน ส่วนตัวใช้อย่างน้อยวันละ 2 ชิ้นคือใส่ออกจากบ้าน 1 ชิ้น เมื่อกลับบ้านจะเปลี่ยนอีก 1 ชิ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อเข้ามาแพร่ให้กับคนในครอบครัวด้วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
และปัจจุบันหน้ากากอนามัย มีราคาแพง ซึ่งผู้บกพร่องทางสายตา ไม่สามารถไปเข้าคิวต่อแถวซื้อหน้ากากอนามัยราคาถูกได้ และไม่กล้าสั่งซื้อออนไลน์ เพราะกลัวได้ของใช้แล้ว หรือของปลอม เมื่อทราบว่าเอไอเอส ได้นำหน้ากากอนามัยแบบผ้ามามอบให้ รู้สึกขอบคุณและดีใจมาก เพราะจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก และทำให้รู้สึกอุ่นใจว่าจะมีหน้ากากอนามัย ใช้ไปตลอดไม่ขาดแคลน ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยเฉพาะผู้บกพร่องทางสายตา ที่อยู่ต่างจังหวัด บางคนอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีคนพาไปซื้อ ทางสมาคมฯ ก็จะทำการส่งไปให้ ขอขอบคุณเอไอเอส แทนผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศด้วย”
ส่วน นางอุมา เสริมสกุล ตัวแทนพนักงานเอไอเอส ที่ได้ร่วมโครงการ “อุ่นใจอาสา ภารกิจคิดเผื่อ” เย็บหน้ากากอนามัย มอบให้กับผู้บกพร่องทางสายตา เผยความรู้สึกว่า “ตอนที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ยังไม่มั่นใจว่าจะเย็บหน้ากากอนามัยได้หรือไม่ แต่มีความตั้งใจเกินร้อย อยากเข้าร่วมโครงการฯ จึงใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน จากการ Work from Home และวันเสาร์-อาทิตย์ พอทำสำเร็จ รู้สึกภูมิใจ และเมื่อทราบว่าหน้ากากอนามัยของเรา ได้ส่งถึงมือของผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ ยิ่งรู้สึกมีความสุข เพราะเราทำออกมาจากใจ ผลลัพธ์ที่ได้กลับคืนมาจากการให้คือความสุข และความอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
เช่นเดียวกับ นายสุขสันต์ เสริมสกุล ตัวแทนพนักงานเอไอเอสที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เผยว่า “ต้องขอบคุณ เอไอเอสที่ริเริ่มโครงการการดีๆ แบบนี้ ตั้งใจว่าจะทำไปต่อไปเรื่อยๆ เพราะทราบว่า ยังมีอีกหลายคนที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ ถ้ามีอะไรที่สามารถช่วยเหลือคนไทยด้วยกันได้ ก็ยินดี ทำให้รู้สึกภูมิใจมาก เมื่อเราแบ่งปันผู้อื่นแล้วความสุขจะเกิดขึ้นที่ใจของเราเอง”
“จากนี้ เอไอเอส จะยังคงเดินหน้าสานต่อ โครงการอุ่นใจอาสา สานต่อภารกิจคิดเผื่อ เพื่อสังคมไทย และมุ่งมั่นที่จะมอบความช่วยเหลือ เพื่อให้คนไทยมีกำลังใจ ข้ามผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้ ขอเพียงแค่คนไทยทุกคน ต้องปรับตัวและอดทน เพื่อก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม กล่าว