Onlinenewstime.com : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ชี้ปัญหาผิวหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 พร้อมแนะนำวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง และวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาผิวหน้าจากการใส่หน้ากากอนามัย
เนื่องจากช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็น ที่เราทุกคนจะต้องใช้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อ วิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องคือหน้ากากอนามัยไม่ควรหลวมหรือแน่นเกินไป ควรเลือกหน้ากากอนามัย ที่กระชับกับใบหน้า และครอบคลุมทุกส่วนของจมูก แก้มและคาง ไม่ควรมีการรั่วบริเวณหน้ากากและผิวหนัง ที่สำคัญการใส่หน้ากากอนามัยใต้จมูก ไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม การใส่หน้ากากอนามัย อาจก่อให้เกิดปัญหาทางโรคผิวหนังได้ เช่น ปัญหาผิวหนังอักเสบบริเวณสายคล้องหู ปัญหาผิวหน้าอักเสบเกิดจากการระคายเคือง และปัญหาสิวจากผิวที่ถูกับหน้ากากอนามัย และผดจากความร้อน เป็นต้น
ปัญหาผิวหนังอักเสบบริเวณสายคล้องหู เป็นการระคายเคืองจากการเสียดสี และเหงื่อเช่นเดียวกับผิวหน้า ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่กระชับพอดี ไม่รัดแน่น หรือหลวมเกินไป ปัจจุบันมีอุปกรณ์เพื่อช่วยไม่ให้สายคล้องหู รัดมากเกินไป แนะนำเลือกใช้เสริมได้ หากมีการอักเสบต่อเนื่องหรือค่อนข้างมาก ควรพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับยาลดการอักเสบที่เหมาะสม
ส่วนปัญหาผิวหน้าอักเสบเกิดจากการระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน นอกจากนี้ อากาศร้อน ก็ทำให้สภาพผิวหนังอ่อนแอลง และเกิดการระคายเคืองได้ ทั้งจากการสัมผัสเสียดสี และจากสารเคลือบหน้ากาก ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยแบบหลวม เพราะจะไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้
สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ ระมัดระวังอย่าให้เหงื่อออกมาก และเปลี่ยนหน้ากากอนามัยเมื่อเริ่มเปียกชื้น แนะนำการใช้ครีมบำรุงผิว ให้ผิวหน้าแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ทำให้หน้าขาว เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบที่ระคายผิว ควรเลือกครีมกันแดดกับครีมบำรุงผิว ที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
ปัญหาสิวซึ่งเกิดจากการถูของหน้ากากอนามัยกับใบหน้า และผดที่เกิดจากความร้อน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวขึ ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ที่เหมาะกับผิวบุคคลนั้น จะช่วยทำให้อาการดีขึ้นหรือไม่เป็นมากได้
ที่มา : กรมการแพทย์