Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

แพทย์เตือนผู้ป่วยเบาหวานระวัง! “เบาหวานขึ้นจอประสาทตา” แนะตรวจคัดกรองสุขภาพตาทุกปี

 

onlinenewstime.com : จากสถานการณ์ผู้ป่วยโรคเบาหวานของประเทศไทยในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนถึง 5 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวาน หากดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอ ก็มักจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามระบบต่างๆ ของร่างกาย

 

ซึ่งภัยเงียบที่น่ากลัวของผู้ป่วยเบาหวาน คือ ภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา โดยพบว่าภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยศูนย์เสียการมองเห็นเป็นอันดับต้นๆของประเทศ แต่โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาสามารถป้องกันได้ ถ้าวินิจฉัยได้เร็ว ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานจำเป็นต้องได้รับการคัดกรองตรวจสุขภาพตาเป็นระยะ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

           

ภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา คือระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่สูงผิดปกติและส่งผลข้างเคียงต่อจอประสาทตา หากตรวจพบช้า หรือรักษาช้า รุนแรงถึงขั้นศูนย์เสียการมองเห็น โดยภาวะเบาหวานขึ้นตานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ถึง30%-40% ของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

 

ผู้ป่วยเบาหวานที่มีความเสี่ยงที่จะมีเบาหวานขึ้นจอประสาทตา คือ

  1. การเป็นโรคเบาหวานเป็นระยะเวลานานและขาดการตรวจภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา
  2. ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  3. ผู้ป่วยที่มีระดับความดันโลหิตสูง
  4. ผู้ป่วยมี่มีไขมันในเลือดสูง

 

ซึ่งอาการที่บ่งบอกถึงโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ระยะแรกส่วนมากจะไม่แสดงอาการตามัว และไม่เจ็บปวดทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่ามีภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา แต่หากปล่อยไว้จนมีโปรตีนรั่วเข้าไปในจอประสาทตา อาจทำให้มองเห็นผิดปกติ เห็นภาพไม่ชัดเจน และเริ่มมีเลือดออกจะบดบังการมองเห็น และถ้าหากบดบังการมองเห็นทั้งหมด ผู้ป่วยจะมีภาวะตาบอดในที่สุด จึงแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวาน มั่นตรวจคัดกรองหาภาวะเบาหวานขึ้นตา เป็นประจำทุกปี

 

นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข

 

การตรวจก็ไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อน หากผู้ป่วยมาพบแพทย์

  1. แพทย์จะหยอดตาขยายม่านตา และรอจนม่านตาขยาย และ 2.แพทย์จะใช้กล้องส่องตรวจไปที่จอตา

หากตรวจพบมีภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในระยะที่ยังไม่รุนแรง แพทย์ก็จะทำการรักษาโดยการคุมเบาหวาน คุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงจนเป็นอันตรายต่อดวงตา ซึ่งระยะนี้เป็นระยะที่ทำการรักษาได้ง่ายที่สุด แต่หากมีภาวะที่เสี่ยงต่อตาบอด เช่น โปรตีนรั่วเข้าไปในจอตามากแล้ว หรือมีเส้นเลือดผิดปกติ

 

 

 

มีเลือดออกในตา มีพังผืดบนจอตา จอตาหลุดลอก ก็จะมีการรักษาอยู่ 3 วิธี

  1. การรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ คือการใช้แสงเลเซอร์เพื่อปิดเส้นเลือดรอยรั่วที่จอประสาทตา จะทำให้ผู้ป่วยมองเห็นได้ชัดขึ้น ซึ่งอาการข้างเคียงอาจทำให้ผู้ป่วยมีการมองเห็นที่แคบลง และความสามารถในการมองเห็นในที่มืดลดลง
  2. การรักษาด้วยการฉีดยาเข้าในตา ซึ่งเป็นการรักษาที่นับเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คือจะทำให้จุดมองภาพชัดที่บวมยุบลงได้เร็ว การมองเห็นกลับมาฟื้นตัวเร็ว แต่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
  3. การรักษาด้วยการผ่าตัด ใช้เมื่อมีเลือดออกในน้ำวุ้นตาเรื้อรัง มีพังผืดบนจอตา จอตาหลุดลอก

 

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยวิธีใด หลังการรักษาผู้ป่วยต้องดูแลตัวเอง โดยการควบคุมเบาหวานไม่ให้มีน้ำตาลในเลือดสูง ต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการหลังการรักษาตามที่แพทย์นัด

 

การป้องกันภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาของผู้ป่วยเบาหวานที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูง ดูแลควบคุมอาหารการกิน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมั่นตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

 

ทั้งนี้ในแต่ละปีศูนย์จักษุ โรงพยาบาลราชวิถี ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้ป่วยที่ประสบปัญหาสุขภาพทางตามากกว่า 1 แสนราย ซึ่งศูนย์จักษุแพทย์ รพ.ราชวิถี  เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดของกระทรวงสาธารณสุข เปิดดำเนินการมานานกว่า 35 ปี อบรมสร้างจักษุแพทย์ไปช่วยดูแลสุขภาพตาประชาชนทั่วประเทศ และยังเป็นศูนย์รักษาโรคตาที่ทันสมัย โดยมีอาจารย์แพทย์ที่เชี่ยวชาญทางจักษุวิทยาครบทุกสาขา

 

นอกจากนี้ภายในอาคารศูนย์การแพทย์ที่จะเปิดให้บริการในกลางปี 2562 นี้ จะเปิดศูนย์ความเป็นเลิศ (Excellent center) ทางจอประสาทตา และเป็นศูนย์รับส่งต่อสำหรับโรคตาที่มีความยากซับซ้อน ของกระทรวงสาธารณสุข มีซึ่งยังมีความต้องการงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์การรักษาที่ทันสมัย ครบครัน

 

เพื่อประโยชน์ในการรักษา จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์กับโรงพยาบาลราชวิถี โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี “เงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี” หมายเลขบัญชี 051-276128-1  ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี  (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า) หรือ สอบถามโทร 02-3548108-37 ต่อ 3032 หรือกรอกข้อมูลผ่าน http://www.rajavithi.go.th

Exit mobile version