onlinenewstime.com : พาณิชย์กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ นำ “แฟรนไชส์” กว่า 100 แบรนด์ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ในภูมิภาค ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2561 นี้ คาดสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่นกว่า 200 ราย และมีเงินสะพัดกว่า 5 ล้านบาท
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ตั้งแต่ระดับชาติถึงระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบประชารัฐ โดยได้วิเคราะห์ปัญหาต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของประชาชน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มรายได้กับประชากรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ก่อให้เกิดโครงการต่างๆ ที่ทำให้เกิดผลิตภาพ (Productivity) อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึง สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมทั้ง เชื่อมโยงไปถึงภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน”
“กระทรวงพาณิชย์ ได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ มาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยได้ดำเนินการจัดงาน “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ว่างงาน และผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง รวมถึง เป็นการช่วยลดการพึ่งพาสวัสดิการของภาครัฐในอนาคต”
“ล่าสุด… ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2561 กรมฯ ได้จัดงาน “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุรินทร์ขึ้นพร้อมกัน จังหวัดสงขลา จัดที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ และ จังหวัดสุรินทร์ จัดที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ห้างโรบินสัน สุรินทร์ โดยจะนำธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง จำนวนกว่า 100 แบรนด์ ให้คนในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด ได้เลือกซื้อนำไปประกอบเป็นอาชีพ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่นได้มากกว่า 200 ราย มีเงินสะพัดกว่า 5 ล้านบาท”
“สำหรับเงินลงทุนในการเลือกซื้อแฟรนไชส์โครงการฯ นี้ เริ่มต้นตั้งแต่ 4,990 บาท เป็นต้นไป ทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่สนใจลงทุนในระบบแฟรนไชส์แต่มีเงินไม่มาก ก็สามารถเลือกลงทุน และเป็นเจ้าของกิจการได้ ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ประสานงานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ร่วมให้สินเชื่อแก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ด้วย โดยจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราพิเศษ”
“ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สนใจเลือกแฟรนไชส์ไปประกอบอาชีพแล้ว แต่ยังไม่มีทำเลหรือสถานที่ขายสินค้า กรมฯ ได้ประสานงานกับปั้มน้ำมันบางจาก เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ในการจัดหาพื้นที่ขายสินค้าให้และคิดค่าเช่าในอัตราพิเศษ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ – ปั๊มน้ำมันบางจาก ฟรีค่าเช่า 1 เดือนสำหรับกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ จ.ชลบุรี สำหรับต่างจังหวัด ยกเว้นค่าเช่า 3 เดือน – เทสโก้ โลตัส ฟรีค่าเช่า 2 เดือน และในเดือนที่ 3 คิดอัตราค่าเช่าให้ส่วนลด 40% – บิ๊กซี ฟรีค่าเช่า 2 เดือนแรก เดือนที่ 3-4 คิดค่าเช่าในอัตรา 50 % เดือนที่ 5-6 คิดค่าเช่าในอัตรา 75%”
“ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ จำนวน 100 แบรนด์ ลงพื้นที่ในส่วนภูมิภาคแล้ว 13 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ลำปาง อุดรธานี เชียงราย นครศรีธรรมราช กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครปฐม กาญจนบุรี และอุบลราชธานี โดยแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม (ร้อยละ 90) เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถบริหารจัดการและจำหน่ายได้ง่าย รองลงมา คือ ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม และบริการ ซึ่งจากการนำธุรกิจแฟรนไชส์ลงพื้นที่ทั้ง 13 จังหวัด สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้แล้วกว่า 50 ล้านบาท คาดว่าเมื่อจบทั้งโครงการ (20 จังหวัด) จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท”
โครงการ “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” ที่จัดขึ้นนี้ จะช่วยให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงานมีอาชีพเป็นของตนเอง สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง และเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5953 สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th