Onlinenewstime.com : บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมเคียงข้างคนไทยสู้ภัยโควิด-19 เปิดชั่วโมงพิเศษ 06.00- 08.00 น. ให้กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ประกอบการ สับหลีกเวลาลดความหนาแน่นในสาขา พร้อมประกาศเวลาเปิดปิดใหม่ 08.00-20.00 น. ตั้งแต่ 1 เมษายนเป็นต้นไป
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างมากในขณะนี้ แม็คโครพบว่า พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการและคนทั่วไป เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนเน้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ต้องการหลีกเลี่ยงช่วงเวลาคนหนาแน่น และมักจะซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากขึ้นต่อครั้ง เพื่อลดความถี่ในการเดินทางออกจากบ้าน
ประกอบกับการรณรงค์ของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อความปลอดภัย แม็คโคร จึงตัดสินใจปรับเวลาเปิดปิดทุกสาขาทั่วประเทศ เป็น 8.00 -20.00 น. และจัดชั่วโมงพิเศษ 6.00 -8.00 น. ให้กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยง หลีกเลี่ยงความแออัดหนาแน่น ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ
“แม็คโครให้ความสำคัญกับนโยบายการรักษาความปลอดภัย ในหลักการรักษาระยะห่าง หรือ Social distancing ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงออกมาตรการที่มุ่งเน้นการเหลื่อมเวลา ลดความหนาแน่นภายในสาขา ลดความเสี่ยง
โดยจัดชั่วโมงพิเศษช่วงเช้าตรู่ ให้กับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ (ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป) ผู้พิการ ที่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านมาซื้อสินค้า รวมถึงผู้ประกอบการ ขณะเดียวกัน ได้ประกาศปรับเวลาเปิดปิดเป็น 8.00-20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป เพื่อให้บริการผู้ประกอบการ ตลอดจนลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เน้นให้เกิดการหมุนเวียนกันเข้ามาซื้อสินค้า ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยจะคงมาตรการนี้ไว้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย”
ไม่เพียงเท่านั้น แม็คโครยังคงเน้นย้ำมาตรการที่เข้มงวด ในการป้องกันการติดเชื้อในสาขา โดยการกำหนดจุดตรวจคัดกรองอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าสาขา ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ จุดที่มีการสัมผัสบ่อยทุก 1 ชั่วโมง พร้อมรณรงค์นโยบาย No Mask, No Entry ให้ทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะใช้บริการ
“แม้ว่าวันนี้ ทุกคนต้องเผชิญสถานการณ์แห่งความยากลำบาก แม็คโครขอเคียงข้างประชาชนคนไทย และผู้ประกอบการในทุกช่วงเวลา เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นางศิริพร กล่าว