Onlinenewstime.com : โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเตือนผู้ติดเชื้อโควิดที่แยกกักตัวเองที่บ้าน ขอให้กักตัวเองอย่างน้อย 10 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการ หากมีความจำเป็นจริงๆต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
ผู้ติดเชื้อบางส่วนเริ่มออกนอกบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติก่อนพ้นระยะแยกกัก ชี้เพิ่มความเสี่ยงแพร่เชื้อ ทำให้เกิดการระบาดโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุอายุ ผู้มีโรคประจำตัว พร้อมเผยแนวทางปฏิบัติตัวช่วงแยกกักที่บ้าน
วันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์โรคโควิด 19 กำลังเพิ่มขึ้น
สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องช่วยกันเข้มมาตรการป้องกันโรค เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะขอความร่วมมือผู้ที่ติดเชื้อโควิดแล้ว
ทั้งที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตนเองที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ซึ่งจะได้รับยากลับมารับประทานที่บ้าน หรือโทรศัพท์เข้าระบบเพื่อให้จัดส่งยามาที่บ้าน หรือผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้วให้กลับมาบ้านก่อนครบ 10 วัน
ขอย้ำว่า ให้กักตัวเองอย่างน้อย 10 วัน หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดจนครบ 10 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ
เนื่องจากขณะนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่ได้กักตัวจนครบตามกำหนด แต่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อได้ ส่งผลให้เกิดการระบาดโควิด 19 อย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุอายุ ผู้มีโรคประจำตัว
นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่แพทย์พิจารณาให้กลับไปกักตัวที่บ้าน คือ
- งดออกจากบ้านไปยังชุมชนทุกกรณี ยกเว้นการเดินทางไปโรงพยาบาลโดยการนัดหมายและการจัดการโดยโรงพยาบาล
- ให้แยกห้องนอนจากผู้อื่น ถ้าไม่มีห้องนอนแยก ให้นอนห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2-3 เมตร และต้องเป็นห้องที่เปิดให้ากาศระบายได้ดี ผู้ติดเชื้อนอนอยู่ด้านใต้ลม จนพ้นระยะการแยกกักตัว
- ควรแยกใช้ห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ให้เช็ดพื้นผิวที่มีการสัมผัสด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้ทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง
- สวมหน้ากากเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
- ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% บ่อยๆ ตามความเหมาะสม และทุกครั้งหลังขับถ่าย
- ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นในระยะไม่เกิน 2 เมตร การพบปะกันให้สวมหน้ากากตลอดเวลา
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และมีประโยชน์ตามหลักโภชนการ
- หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่หรืออาการเดิมมากขึ้น เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้ติดต่อสถานพยาบาล หากต้องเดินทางให้สวมหน้ากากระหว่างเดินทางตลอดเวลา
- หลังจากครบกำหนดกักตัวสามารถประกอบกิจกรรมทางสังคม และทำงานได้ตามปกติ โดยยังคงมาตรการป้องกันตนเอง