Onlinenewstime.com : จุดเริ่มต้นของแบรนด์ไฮเออร์ ในประเทศไทย จากทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มาถึงปัจจุบันให้ความสำคัญกับการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยปรับเปลี่ยนจากการเป็นแบรนด์อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มาเป็นแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์สมาร์ทโฮมให้กับลูกค้ามากขึ้น
สำหรับการต่อยอดธุรกิจเดิมของไฮเออร์ จากเป็นผู้ผลิตและผู้นำรายใหญ่ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลก โดยมี 7 แบรนด์ในเครือ ประกอบด้วย Haier, Casarte, Leader, GE Appliances , Fisher&Paykel , AQUA และ Candy ล่าสุดนั้น เดินหน้าขยายธุรกิจด้วยการเปิดร้านซักผ้าอัจฉริยะ 24 ชั่วโมง “Mr.Hi Smart+ by Haier” (มิสเตอร์ ไฮ สมาร์ท พลัส บาย ไฮเออร์) นำร่องสาขาแรกที่ซอยวิภาวดี 16 โดยร่วมมือกับบริษัท ดีที นิว เอ็นเนอร์จี้ จำกัด โดยโอกาสในการขยายธุรกิจ คือ เพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และชุมชนใกล้เคียง พร้อมวางแผนเปิดทั้งหมด 50 สาขาภายในปีนี้
ส่วนรูปแบบการขยายสาขานั้น เน้นผ่านดีลเลอร์ผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและนักลงทุนแฟรนไชส์ และตั้งเป้าขยายสาขาให้ถึง 200 สาขาภายใน 2 ปี ซึ่งในปี 2563 นี้ จะเน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก แล้วจึงเริ่มขยายไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่ในปีถัดไป
นายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไฮเออร์ กล่าวว่า “สมาร์ท พลัส บาย ไฮเออร์ คือ ร้านซักผ้า 24 ชั่วโมง ภายใต้คอนเซ็ปต์ 3C ‘Clean, Care, Convenience’ ที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่โดยทำให้การซักผ้าสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชัน Smart Plus ของไฮเออร์”
สำหรับ Mr.Hi Smart+ by Haier สาขาแรกมีพื้นที่ 50 ตารางเมตร ภายในร้านมีบริการเครื่องซักผ้าขนาด 12 กิโลกรัม จำนวน 6 เครื่อง เครื่องอบผ้าขนาด 12 กิโลกรัม จำนวน 6 เครื่อง เครื่องขายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มจำนวน 1 เครื่อง และระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน รวมงบลงทุนกว่า 3 ล้านบาท
นางมัทนา มูลจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดีที นิว เอ็นเนอร์จี้ จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกยินดี เป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยอันดับ 1 ของโลก และเป็นพันธมิตรที่ดีมาอย่างยาวนาน โดยทางไฮเออร์ได้พัฒนาเครื่องซักและเครื่องอบผ้าที่ควบคุมการใช้งานด้วยแอปพลิเคชันเต็มรูปแบบ 100% เป็นรายแรกของไทย และมีรูปแบบการชำระค่าบริการผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ แอปพลิเคชัน Smart Plus เติมเงินได้หลายช่องทาง เช่น Prompt Pay, Counter Service, Rabbit Line Pay, TrueMoney Wallet, Alipay, WeChat,บัตรเครดิตและเดบิต เพื่อช่วยลดการสัมผัสกับตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ นับว่าเป็นการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง ในยุค New Normal ได้อย่างสมบูรณ์”
นายจาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในครึ่งหลังของปี 2563 นี้ ไฮเออร์พร้อมเสริมกลยุทธ์ผลักดันภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย Haier Brand Shop ที่ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมีสาขาเปิดใหม่ล่าสุดที่จังหวัดปราจีนบุรี และจะมุ่งเน้นขยายช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่องทางธุรกิจ B2B และปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่าย เพื่อรุกช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจของไฮเออร์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายจาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวทิ้งท้าย