fbpx
News update

1 ร้าน 1 Live ดันยอดขายผู้ประกอบการสินค้าชุมชนโตขึ้น 10% พร้อมเพิ่มยอดการเข้าถึงและมองเห็นถึง 237%

Onlinenewstime.com : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยความสำเร็จโครงการติดปีกธุรกิจออนไลน์สร้างรายได้ฝ่าโควิด-19 กิจกรรม 1 ร้าน 1 live หลังจับมือ Shopee และ Lazada ติวเข้มกลยุทธ์ สร้างธุรกิจให้อยู่รอด

พร้อมเพิ่มทักษะ ดันยอดขายให้ปังบนโลกออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการสินค้าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 100 ราย โดยจัดให้มีการไลฟ์สดขายสินค้า ส่งผลให้ยอดขายผู้ประกอบการสินค้าชุมชนโตขึ้น 10 % พร้อมเพิ่มยอดการเข้าถึงและมองเห็นถึง 237% รวมมียอดผู้เข้าชมระหว่างการไลฟ์สดกว่า1 หมื่นราย นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “โครงการติดปีกธุรกิจออนไลน์สร้างรายได้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 กิจกรรม ‘1 ร้าน 1 Live’ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมมือกับ Shopee และ Lazada แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ชั้นนำของไทย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะด้านมาถ่ายทอดประสบการณ์ นำจุดอ่อน-จุดแข็งของธุรกิจมาทำการวิเคราะห์เพื่อวางแนวทางในการพัฒนาการบริหารจัดการด้านการตลาด ก่อนติวเข้มและเสริมแกร่งผู้ประกอบการให้สามารถขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ

รวมทั้ง จัดกิจกรรมการถ่ายทอดประสบการณ์จากกูรูด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น เทคนิคการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านการให้ส่วนลด เทคนิคการไลฟ์สดขายสินค้า เทคนิคการเพิ่มการมองเห็นให้กับร้านค้า เคล็ดลับขายสินค้าอย่างไรให้ยอดพุ่ง และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 100 ร้าน จัดกิจกรรมไลฟ์สดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของ Shopee และ Lazada แบ่งเป็น ไลฟ์สดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของ Shopee : Shopee Live จำนวน 57 ร้านค้า และผ่านแพลตฟอร์มของ Lazada :  Laz Live จำนวน 43 ร้านค้า

โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทบริโภค เช่น น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ กระยาสารท ข้าวกล้องอบกรอบ มะม่วงหิมพานต์เผา ฯลฯ

นอกจากนี้ ทั้ง 2 แพลตฟอร์มยังช่วยทำโปรโมชั่น และประชาสัมพันธ์การขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการฯ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและมองเห็นร้านค้าออนไลน์ เป็นการกระตุ้นและสร้างการรับรู้ร้านค้ามากขึ้น

โดยกิจกรรม ‘1 ร้าน 1 Live’ มีผู้เข้าชมสินค้าของผู้ประกอบการฯ รวมกว่า 10,000 วิว ในระยะเวลา 1 เดือน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 237 และมียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่จะใช้วิธีการไลฟ์สดมาเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้า และเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาสู่การเป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ”

นางสาวสกาวเดือน วงศ์ตระกูล ผู้บริหารบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน กล่าวว่า “ผลสำเร็จของโครงการติดปีกธุรกิจออนไลน์สร้างรายได้ฝ่าโควิด-19 ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดหลักสูตร เพื่อติวเข้มให้ความรู้แบบหมดเปลือกกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

แนะวิธี หรือเทคนิคการนำสินค้าไปฝากที่แพลตฟอร์มของ Shopee จะต้องทำอย่างไร หรือทำยังไง ให้สินค้าของเราเป็นที่สนใจของผู้ซื้อ และร่วมไลฟ์สดผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน”

นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เริ่มจากภาครัฐ เห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างกับประชาชน

รวมถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ ทำให้ขาดรายได้ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งช่องทางอี-คอมเมิร์ซ นับเป็นช่องทางการตลาด ที่สามารถช่วยกู้วิกฤตให้ผู้ประกอบการได้ เพราะเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมาย

โดยมี Lazada เป็นแพลตฟอร์มกลางเพื่อเชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ขาย และกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค ทั้งนี้ ยังจัดทำแคมเปญสนับสนุนด้านการตลาด เช่น จัดทำคูปองส่งฟรี รวมถึงการประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก และสร้างการยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น”

“ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีความยินดี และภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา ผลักดัน และสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ และหวังว่าโครงการ ‘1 ร้าน 1 live : ติดปีกธุรกิจออนไลน์สร้างรายได้ฝ่าวิกฤตโควิด-19’ ครั้งนี้ จะช่วยฟื้นฟูกิจการและสร้างรายได้เพิ่ม ให้กับผู้ประกอบการสินค้าชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถก้าวผ่านและดำเนินกิจการต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว และพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ของตนเองให้สามารถตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ มีโอกาสประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

จากผลสำรวจโครงการ Thailand Digital Outlook ระยะที่ 3 ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา รายงานว่า ประชาชนยอมรับและเชื่อถือการใช้ e-Commerce มากขึ้น โดยประชาชนมีการซื้อสินค้า และบริการผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 37.7 เป็น ร้อยละ 76.6 และประเทศไทยมีมูลค่าการชําระเงินออนไลน์ผ่าน Mobile Banking สูงที่สุดในโลก

ปัจจุบัน คนไทยมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 6 – 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยกิจกรรมที่ใช้ได้แก่ การทํางาน ความบันเทิง และ ซื้อ-ขายออนไลน์ โดยพบว่า ใช้เพื่อการทํางาน เช่น ประชุมออนไลน์ จากนโยบาย Work from Home คิดเป็นร้อยละ 75.2 การเรียนออนไลน์ คิดเป็นร้อยละ 71.1 ซื้อสินค้าออนไลน์ คิดเป็นร้อยละ 67.4% และเพื่อการติดต่อสื่อสารสนทนา ร้อยละ 65.1 และ ทําธุรกรรมด้านการเงินออนไลน์ ร้อยละ 54.7