
Onlinenewstime.com : ประเทศไทยก้าวสู่ยุคใหม่ของการแพทย์แผนไทย เมื่อกระทรวงสาธารณสุขผลักดันให้ยาสมุนไพรเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นทางการ ภายใต้นโยบาย “เจ็บป่วยคราใด คิดถึงยาไทย ก่อนไปหาหมอ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร 10 รายการ สำหรับ 10 กลุ่มโรคที่พบบ่อย
ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระการนำเข้ายาจากต่างประเทศแล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรไทย คาดการณ์ว่าภายในปี 2569 มูลค่าการใช้ยาสมุนไพรในระบบสาธารณสุขจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท
10 สมุนไพรไทย กับสรรพคุณรักษาโรค
- ไพล – บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ
- ฟ้าทะลายโจร – รักษาไข้หวัดและโรคโควิด-19
- ขมิ้นชัน – แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- เพชรสังฆาต – ช่วยเรื่องท้องผูกและริดสีดวงทวาร
- ขิง – บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ
- มะระขี้นก – แก้เบื่ออาหาร
- ยากล้วย – บรรเทาอาการท้องเสีย
- ยาหอมเทพจิตร – ช่วยเรื่องนอนไม่หลับ
- ยาพริก – แก้อาการชาจากอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ว่านหางจระเข้ – ใช้ทาผิวหนัง แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพร 5 รายการที่สามารถใช้แทนยาแผนปัจจุบัน ได้แก่ ยาประสะมะแว้ง (ใช้ทดแทนยาน้ำแก้ไอ ละลายเสมหะ ) ยามะขามแขก (ใช้ทดแทนยาระบาย Bisacodyl ) ยาครีมไพล (ใช้ทดแทน Analgesic balm บรรเทาปวด) ยาขมิ้นชัน (ใช้ทดแทนยาขับลม เช่น M. carminative) และยาเพชรสังฆาต (ใช้ทดแทนยาริดสีดวงทวารหนัก เช่น Dafron )
นโยบายขับเคลื่อนสมุนไพรไทย
กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรสำหรับบุคลากร ทางการแพทย์” Kick off นโยบาย “เจ็บป่วยคราใด คิดถึงยาไทย ก่อนไปหาหมอ” นพ.จักรกริช โง้วศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
เพื่อผลักดันให้ยาสมุนไพรได้รับการบรรจุในระบบหลักประกันสุขภาพอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าหมายการใช้ยาสมุนไพรไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทในปี 2568 และเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาทภายในปี 2569
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีการใช้ยาในระบบสาธารณสุขของรัฐ ประมาณ 70,543 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยาสมุนไพร 1,560 ล้านบาท โดยเป็นการใช้ยาสมุนไพรในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพียง 408 ล้านบาท ทั้งที่ยาสมุนไพรหลายรายการมีสรรพคุณในการรักษาดีเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขในปี 2569
ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2568 กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะร่วมมือกับ สปสช. ในการประกาศรายการยาสมุนไพร 32 รายการ ในรูปแบบ Fee schedule ซึ่งจะปรับระบบการเบิกจ่ายเป็นต่อคอร์สการรักษา เพิ่มราคายาจากสมุนไพร
อนาคตของสมุนไพรไทย
นโยบายดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาด้วยสมุนไพรได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ระดับเกษตรกร ผู้ผลิต จนถึงภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังช่วยลดการพึ่งพายานำเข้าจากต่างประเทศ เสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดสมุนไพรโลก
สมุนไพรไทยกำลังก้าวสู่การเป็นทางเลือกหลักของการรักษาในระบบสาธารณสุข ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ด้านสุขภาพของประชาชน แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอนาคต