fbpx
News update

10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19

Onlinenewstime.com : พาณิชย์’ เปิด 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 ธุรกิจที่สอดรับกับการใช้ชีวิตยุค New Normal สุดฮิตนำโด่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ธุรกิจทางการแพทย์ ธุรกิจฆ่าเชื้อโรค และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจในประเทศไทย ต่างได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว จากการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคฯ

ประกอบกับประชาชน ต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตหลายด้าน ทำให้การใช้จ่ายเกิดการชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยตรงในช่วงครึ่งปีแรก

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มกลับมาประกอบธุรกิจอีกครั้ง ผู้ประกอบการ ทั้งรายเก่าและรายใหม่หั นมาประกอบธุรกิจ ที่สอดรับกับการใช้ชีวิตยุค New Normal มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ธุรกิจทางการแพทย์ และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ”

“โดยธุรกิจดาวเด่นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการขั้นพื้นฐาน และเทคโนโลยีเป็นหลัก เช่น อาหาร ยารักษาโรค และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจขนส่งอาหารและสินค้า ประกอบด้วย 10 ธุรกิจ คือ

1) ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัย หรือเภสัชกรรมที่ทำจากยาง

2) ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์

3) ธุรกิจการฆ่าเชื้อและกำจัด

4) ธุรกิจ e-Commerce

5) ธุรกิจการขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

6) ธุรกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร

7) ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์

8) ธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุ

9) ธุรกิจการขายส่งสินค้าทั่วไป

10) ธุรกิจเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชี และการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี

โดยทั้ง 10 ธุรกิจดาวเด่น สามารถจำแนกออกเป็นกลุ่มธุรกิจได้ดังนี้

ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยที่ทำจากยางพารา การขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ทางการแพทย์ และธุรกิจการฆ่าเชื้อโรค/กำจัด จากสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ พบว่า ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.63) ธุรกิจกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 37 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.62) โดยเฉพาะธุรกิจที่ ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยที่ทำจากยางพารา เช่น ถุงมือยาง พบว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 12 เท่า 

ธุรกิจ e-Commerce จากสถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.63) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.62)

เห็นได้ชัดว่าการสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และการขนส่งทางไปรษณีย์ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยอมรับมากขึ้น ทั้งนี้ พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในช่วงเวลาอันสั้น แสดงถึงการปรับตัว และการยอมรับเพื่อเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal

โดยกระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญ และมุ่งหมายในการพัฒนาส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จึงได้จัดโครงการ เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ได้แก่ โครงการ Offline 2 Online โครงการ Thailand e-Commerce (Hackathon) 2020 ฯลฯ เป็นต้น

ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.63) เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน กับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce และพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น

แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการประกอบธุรกิจ ที่ผู้ค้าออนไลน์ เริ่มให้ความสนใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการค้า หรือประยุกต์การใช้เทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมช่องทางการค้าออนไลน์ของตัวเองมากยิ่งขึ้น

ธุรกิจขนส่งอาหารและเอกสาร จากสถานการณ์ที่ผู้บริโภค ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ความนิยมในการสั่งซื้อสินค้าและอาหารทางออนไลน์ ทำให้ธุรกิจขนส่งอาหาร เอกสาร และสิ่งของ เติบโตอย่างก้าวกระโดด

โดยมีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.63) ถึง 1,544 บริษัท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.62) ถึงร้อยละ 10

ธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการทำความสะอาด ขายส่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขายส่งสินค้าทั่วไป และธุรกิจเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี และการให้คำปรึกษาด้านภาษี โดยธุรกิจกลุ่มนี้ เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากบริการจัดทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี เป็นสิ่งที่นิติบุคคลส่วนใหญ่ต้องใช้บริการ โดยมีแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น ในอัตราที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา”

รมช.พณ.กล่าวเพิ่มเติมว่า “10 ธุรกิจดาวเด่นข้างต้น มีผู้ประกอบธุรกิจมาจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.62) แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย 1. ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัย หรือเภสัชกรรมที่ทำจากยาง จำนวน 13 บริษัท เพิ่มขึ้น 12 เท่า (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 1 บริษัท)

2. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ จำนวน 438 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 150 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 175 บริษัท) 3. ธุรกิจการฆ่าเชื้อและกำจัด จำนวน 67 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 49 บริษัท)

4. ธุรกิจ e-Commerce จำนวน 508 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 377 บริษัท) 5. ธุรกิจการขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 150 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 126 บริษัท)     

6. ธุรกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร จำนวน 123 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 103 บริษัท) 7. ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์ จำนวน 338 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 294 บริษัท) 8. ธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุ จำนวน 1,544 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 1,400 บริษัท)

9. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทั่วไป จำนวน 393 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 365 บริษัท) และ 10. ธุรกิจเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี จำนวน 498 บริษัท ลดลงร้อยละ 5 (ม.ค.-ก.ค.62 จำนวน 524 บริษัท)  

“อย่างไรก็ตาม คาดว่าตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เป็นต้นไป การประกอบธุรกิจของภาคธุรกิจ จะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยง ที่อาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ในประเทศ รวมทั้งผลกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้” รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย