เวบไซด์สภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum จัดลำดับเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกปี 2017 พบว่า 10 อันดับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกปี 2017สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งตามมาด้วยจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย อิตาลี บราซิล และแคนาดา
- สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งตัวเลขสัดส่วนเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก จากตัวเลขล่าสุดของธนาคารโลกระบุว่ามีมูลค่า 18 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็นหนึ่งในสี่ของคือ 24.3%
- จีนตามมาด้วยมูลค่า 11 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 14.8% และญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 3 กับมูลค่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเกือบ 6%
- ประเทศในยุโรป อยู่ใน 3 อันดับถัดไป โดยมี เยอรมนีที่อันดับสี่ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ อังกฤษอันดับห้ากับ 2.9 ล้านล้าน และฝรั่งเศส อันดับ 6 2.4 ล้านล้านดอลลาร์
- อินเดียอยู่ในอันดับ 7 ด้วยเงิน 2 ล้านล้าน และอิตาลีอยู่ในอันดับที่แปดโดยมีเศรษฐกิจมากกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์
- อันดับ 9 ตกเป็นของบราซิล ด้วยมูลค่าเกือบ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ และแคนาดาที่อันดับ 10 กว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
- เศรษฐกิจของสหรัฐฯ นับว่าใหญ่กว่าการนำมูลค่าของประเทศตั้งแต่แต่อันดับสามถึงสิบมารวมกันเสียอีก!
เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด
แต่กระนั้น สหรัฐอเมริกาก็ไม่แน่ว่าจะครองตำแหน่งนี้ไปได้อีกนานสักเท่าไร
เพราะแม้ว่าประเทศจีนจะยังห่างจากสหรัฐถึง 7 ล้านล้านดอลล่าร์ แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก
ตามที่ IMF ระบุว่าเศรษฐกิจของจีนขยายตัวถึง 6.7% ในปี 2016 เทียบกับสหรัฐอมริกาที่มีอัตราการขยายตัวเพียง 1.6%
นอกจากนี้จีนยังวิ่งแซงอินเดีย ในฐานะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่เติบโตเร็วที่สุด เทียบกับอินเดียที่เติบโต 6.6% ในปี 2016
ในกราฟแสดงถึง 40 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก แต่แยกกรุ๊ปเป็นสีตามแต่ละทวีป
กลุ่มประเทศในเอเชีย ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ที่สุด แต่คิดเป็นสัดส่วนเศรษฐกิจเพียงหนึ่งในสามคือ 33.84% ของ GDP ทั่วโลก เทียบกับทวีปอเมริกาเหนือซึ่งมีพื้นที่เพียงหนึ่งในสี่แต่มีเศรษฐกิจที่ 27.95% และยุโรปที่ 21.37% เรียกว่าสามกลุ่มนี้สร้างรายได้โดยรวมของโลกได้ถึง 4 ใน 5 คือ 83.16%
อนาคตเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ในปี 2050
จากงานวิจัยฉบับใหม่ของ Price waterhouse Cooper ทำนายว่าประเทศจีนจะขึ้นเป็นเศรษฐกิจอันดับที่หนึ่งภายในปี 2050 เพราะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ จะเติบโตรวดเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยอินเดียจะตามมาเป็นอันดับที่สอง ในขณะที่สหรัฐฯกลายเป็นประเทศอันดับที่สาม และคาดว่าอันดับที่สี่จะตกเป็นของอินโดนีเซีย
อังกฤษมีแนวโน้มจะลดอันดับลงมาเป็นที่ 10 ในขณะที่ฝรั่งเศสจะตกไปต่ำกว่า Top 10 และซ้ำร้ายอิตาลีอาจจะไม่ติด Top 20 ในขณะที่จากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างเม็กซิโก ตุรกีและเวียดนามจะขึ้นมาแทนที่
รายงานยังชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าสองเท่าภายในปี 2050 เนื่องจากการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ที่มา : Alex Gray ,World Economic Forum