fbpx
News update

“2025 Trend – 4 เทรนด์ธุรกิจที่ต้องจับตามอง”

โซลูชัน AI ที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนและความยั่งยืนเป็นเรื่องง่าย

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ยังคงเป็นความเสี่ยงระดับโลกในอันดับต้นๆ ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยผู้เชี่ยวชาญ 63% และประชาชนทั่วไป 45% จัดให้เรื่องนี้อยู่ในห้าอันดับแรกของข้อกังวล แต่การตระหนักที่เพิ่มขึ้นของสังคมอาจไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงไปทันทีในเชิงพฤติกรรมเสมอไป เพราะความตั้งใจดีของหลายคนก็มีอุปสรรค เช่น เรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้น หรือความไม่สะดวกสบาย เป็นต้น

ในขณะที่ผู้บริโภคเรียกร้องให้องค์กรต่าง ๆ และภาครัฐดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างจริงจังและถูกต้อง การปฏิวัติด้วย AI สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีที่ง่ายกว่า เพราะ AI เป็นเครื่องมือที่ใช้ศึกษาและคัดเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ จึงเลือกใช้ AI เพื่อเชื่อมต่อ และปิดช่องว่างระหว่างแนวคิดที่ดูสมบูรณ์แบบกับการนำไปปฏิบัติได้จริง ทำให้การใช้ชีวิตที่มีหลักการหมุนเวียนราบรื่นขึ้น

ในปี 2025 กับคำถามที่ว่า เราจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ทำให้แนวทางปฏิบัติ LOOPLIFE เป็นจริงได้อย่างมีมาตรฐานหรือไม่ AI จะเป็นทางเลือกที่สามารถทำได้แบบยั่งยืนง่ายดายขึ้น และทำให้เกิดแนวโน้มที่จะมีการปรับเปลี่ยนไม่ใช่แต่เพียงพฤติกรรมเฉพาะของบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไปในวงกว้างขึ้นด้วย โอกาสใหม่ๆนี้ ขยายออกไปได้ไกลกว่าการกระตุ้นพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจไปถึงปรับเปลี่ยนแนวทางการบริโภคในรูปแบบใหม่ๆอีกด้วย

Faircado ในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี คว้าชัยชนะการแข่งขัน Slush 100 เมื่อเดือนธันวาคม 2023 โดยได้รับเงิน 1 ล้านยูโรสำหรับเบราว์เซอร์ปลั๊กอินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถค้นหาทางออนไลน์ เพื่อซื้อสินค้ามือสองในราคาถูก ด้วยการจับมือกับพันธมิตรกว่า 50 แพลตฟอร์ม เช่น eBay เป็นต้น

สตาร์ทอัพนี้ จะช่วยสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่คล่องตัวขึ้น โดยมีรายได้จากค่าคอมมิชชัน และค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางการเข้าชม โดยมีเป้าหมายคือเพื่อช่วยบริหารจัดการตลาดสินค้ามือสองที่กระจัดกระจายไปทั่ว และยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสำหรับการช้อปปิ้งอย่างยั่งยืน Faircado ประกาศว่าจะใช้เงินรางวัลเพื่อการขยายทีมงานและการพัฒนาแอปต่อไป

Binit บริษัทด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศของฟินแลนด์ได้พัฒนา Binit Waste Tracker ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดขยะในครัวเรือน โดยนำอุปกรณ์มาติดตั้งในครัว จากนั้นผู้ใช้สามารถสแกนขยะโดยใช้กล้องและเซ็นเซอร์ที่บิลท์อินกับอุปกรณ์ ซึ่ง LLMs จะทำการวิเคราะห์ขยะและเสนอวิธีจัดการผ่านแอปที่มีคุณสมบัติต่างๆ ไปจนถึงให้การคะแนนขยะรายสัปดาห์กับผู้ใช้งาน

Borut Grgic ผู้ก่อตั้ง Binit กล่าวว่า อุปกรณ์มีความแม่นยำในการจดจำขยะถึง 98% และหลังจากการทดสอบนำร่องในสหรัฐฯ และยุโรป Binit มีแผนวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ของ 2024 ที่ราคาประมาณ 199 USD โดยให้บริการวิเคราะห์พื้นฐานฟรี พร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียมที่คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานผ่านการสมัครสมาชิก

เมื่อเดือนตุลาคม 2024 Carrefour Argentina ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Wasteless เพื่อจัดการกับขยะอาหารในร้านค้า 640 แห่งทั่วประเทศ เทคโนโลยี AI ของ Wasteless จะปรับส่วนลดสินค้าที่มีโอกาสเน่าเสียง่ายโดยอัตโนมัติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะขายอาหารได้หมดก่อนวันหมดอายุ

ตามข้อมูลของแบรนด์ เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดต้นทุนจากการลดราคาได้ถึง 54% โดยระบบจะใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ เพื่อคาดการณ์ว่าสินค้าชิ้นไหนมีแนวโน้มที่ขายไม่หมดและต้องทิ้งไป ปัจจุบัน Wasteless AI ถูกนำมาใช้ในร้าน Carrefour ทั่วสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนีแล้ว

PackSmartบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ที่ปรับให้เข้ากับขนาดของพัสดุแบบเรียลไทม์

PackSmart ของ DHL ใช้เทคโนโลยีระดับนาโนและวัสดุกันกระแทกที่ปรับขนาดได้ เพื่อปรับสภาพภายในกล่อง ให้แน่ใจว่า พัสดุได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดและลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้เทคโนโลยียังมีการจดจำเพื่อทำซ้ำในการขนส่งครั้งหน้า โดยใช้การประเมินจากประวัติการจัดส่งสินค้า ครอบคลุมไปถึงการพยากรณ์สภาพอากาศเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างขนส่งอีกด้วย

IKEA Loop Kitchen

Loop Kitchen จาก IKEA ใช้เซ็นเซอร์อัจฉริยะและอัลกอริทึม AI เพื่อตรวจสอบอาหารคงเหลือ แนะนำสูตรอาหารตามวัตถุดิบที่มีอยู่ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์เพื่อการลดขยะอาหาร

ประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส จะเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ เป็นที่ทราบกันดีว่า การแสวงหาสุขภาพดียังคงเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลังของพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ในปี 2025 เส้นทางการเรียนรู้ของผู้บริโภค จะพบกับจุดตัดที่สำคัญของประสบการณ์ส่วนบุคคล (เพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2022 ถึง 2024 ตามข้อมูลของ Deloitte)

นวัตกรรมทางเทคโนโลยีกำลังผลักดันให้เกิดขึ้นประสบการณ์ผู้บริโภค ที่เน้นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่ดื่มด่ำ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามสัญญาณทางอารมณ์และการตอบสนองทางกายภาพของผู้เข้าร่วม

ขั้นตอนต่อไปคือให้ผู้บริโภคเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง และแบรนด์ต้องหาทางเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อคิดค้นสินค้า หรือบริการให้ตอบสนองได้ การสร้างประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส ที่ไม่เพียงแค่ตรวจสอบความต้องการภายในใจของผู้บริโภค แต่จะต้องเปลี่ยนสิ่งนั้นในวิถีที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สายการบิน Turkish Airlines เปิดตัวโครงการศิลปะที่ไม่เหมือนใครชื่อว่า Inner Portrait ร่วมกับศิลปินชื่อดัง Refik Anadol ในงาน Art Basel เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 เริ่มจาก Anadol ส่งอาสาสมัคร 4 คนที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางใหม่

และใช้เซ็นเซอร์เพื่อรวบรวมข้อมูลอารมณ์ในรูปแบบอัตราการเต้นของหัวใจ การนำไฟฟ้าของผิว และผล EEG จากนั้นข้อมูลนี้จะถูกแปลงเป็นประสบการณ์เสมือนจริงที่มุ่งเน้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเดินทางกับกิจกรรมของเซลล์ประสาท โดย Turkish Airlines ได้เผยแพร่สารคดีของ portrait นี้เมื่อไตรมาสที่ 4 ของ 2024

Mindography จาก instax ของ FUJIFILM ใช้ AI และประสาทวิทยาศาสตร์ (neuroscience) เพื่อสร้างความทรงจำที่หายไปขึ้นมาใหม่ ผลงานนี้ทีมงานทำงานร่วมกับ Dr. Paul Scotti จาก Princeton Neuroscience Institute โดยสร้างภาพจากความทรงจำของ Nicole Toum ขึ้นมาใหม่แบบดิจิทัล

ขั้นตอนเริ่มจากการสแกน MRI เพื่อจับคู่การทำงานกับสมองของ Nicole ขณะที่เธอเห็นภาพความทรงจำแต่ละเรื่อง จากนั้น AI อัลกอริทึมจะประมวลผลและสร้างภาพจากความคิดของ Nicole แคมเปญนี้สร้างแรงกระเพื่อมทางโซเชียลอย่างมีนัยสำคัญ และมีผู้เข้าชมถึง 12 ล้านคน โดยมีการเปิดตัวนิทรรศการเป็นครั้งแรกที่ Sydney’s China Heights Gallery ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 20 ปีของ FUJIFILM Australia

Budweiser จัดงานแบบ Interactive ที่ Tomorrowland Brazil เมื่อเดือนตุลาคม 2024 โดยเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานให้มาแบ่งปันความฝันของตนใน ‘Circle of Dreams’

ผู้เข้าร่วมงานได้เปิดเผยความปรารถนาของตน และได้ถ่ายภาพ จากนั้นภาพจะถูกแปลงเป็นงานศิลปะดิจิทัล ที่ผสมผสานภาพเหมือนของเจ้าของความฝัน กับภาพเสมือนที่แสดงถึงเป้าหมายของคนนั้น ผลงานศิลปะจะถูกจัดแสดงบนหน้าจอบนเวที เป็น showcase เป้าหมายของงานคือเพื่อส่งเสริมให้ผู้ร่วมงานแสดงออกถึงความฝัน และเป้าหมายของตน และแน่นอนว่าช่วยกระตุ้นให้พยายามไปให้ถึงเป้าหมายนั้นอีกด้วย

ตัวอย่างเพิ่มเติม

VR Vibes: Mood Museum

การผสมผสานศิลปะกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน VR Vibes เป็น Mood Museum ที่ผสมผสาน AR และ AI เข้าด้วยกัน เพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะ ดนตรี และประสบการณ์เสมือนจริง ที่ยกระดับไปถึงสภาวะอารมณ์ของผู้ใช้ นับเป็นวิธีใหม่ที่ช่วยให้เราได้สำรวจและรับรู้ถึงจิตใจของตนเอง

ECHO Beauty

แคมเปญนี้ใช้แนวคิดใหม่ด้าน psychoacoustics (จิตสวนศาสตร์ – คำอ่าน : จิด-ตะ-สะ-วะ-นะ-สาด ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับประสาทสัมผัสของมนุษย์ด้านการได้ยิน) เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของ L’Oréal ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้น เพื่อยกระดับกิจวัตรความงามผ่านประสบการณ์เสียง แต่ละผลิตภัณฑ์ จะจับคู่กับความถี่เสียงที่สะท้อนออกมาแบบเฉพาะตัว เพื่อปลดล็อกความงามภายในผ่านการดูแลจากภายนอก

การทบทวนถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์และหนทางในการแลกเปลี่ยน

เราทุกคนต่างตระหนักว่าความผันผวนทางเศรษฐกิจจะยังคงดำเนินต่อไป ในปีหน้าผู้บริโภคจะมองหาความหมายของคำว่าคุณค่าอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และเนื่องจาก Gen Z ยังคงไม่ชื่นชอบการทำงานแบบเดิม ๆ (49% ของ Gen Zจาก 5 ประเทศระบุว่างานที่ทำไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง) ในปี 2025 เราจะได้เห็นรูปแบบใหม่ๆ ในการสร้างและการดึงดูดความสนใจในคุณค่า

แบรนด์ที่มีแนวคิดก้าวหน้า มีการเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วสำหรับแนวคิดใหม่ ๆ ในการสร้างคุณค่า และแบรนด์เหล่านั้นจะไม่จำกัดเพียงแค่การสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับสินค้า หรือแค่เสนอทางเลือกใหม่ ๆ ของวิธีการชำระเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งมากขึ้น

ทำอย่างไรจะสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างความภักดีในแบรนด์โดยนำเสนอคุณค่าที่ได้รับเป็นการแลกเปลี่ยน แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นแบรนด์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคปลดล็อกคุณค่าในรูปแบบที่คาดไม่ถึง ความสำเร็จของธุรกิจ อยู่ที่การสร้างระบบตอบแทนให้กับผู้บริโภค เพื่อมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง กว้างไกลไปถึงการมีส่วนร่วมในเชิงกลยุทธ์กับแบรนด์ จึงถึงเวลาพิสูจน์คุณค่าของเราให้ผู้บริโภคได้เห็น

ในเดือนกรกฎาคม 2024 แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากสหรัฐฯ อย่าง Glossier ได้จับมือกับแพลตฟอร์มชุมชน TYB (Try Your Best) ที่มีบทบาทในการสนับสนุนแบรนด์ต่างๆ ให้กำหนดโจทย์ที่ท้าทายกับผู้บริโภคได้ เช่น การส่งเซลฟี่ที่นำไปเผยแพร่ในช่องทางโซเชียลของ Glossier เป็นต้น โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมที่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดได้

ตามข้อมูลของ Vogue Business มีแฟนๆ ของ Glossier สมัครเข้าร่วมในแพลตฟอร์มมากกว่า 10,000 รายภายใน 24 ชั่วโมงแรก แบรนด์ความงามอื่น ๆ ที่ต่างหันมามีส่วนร่วมกับ TYB ได้แก่ Rare Beauty, Ouai และ Dieux ซึ่งเป็นของ P&G และหลายๆแบรนด์ได้ใช้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแคมเปญในอนาคตอีกด้วย

เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 เกม The Co-Worker บน Roblox ช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานในจักรวาลเสมือนจริงของอิเกีย ตั้งแต่การช่วยเหลือลูกค้า รับการเลื่อนตำแหน่ง และสำรวจแผนกต่างๆ

ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แฟน ๆของอิเกีย ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและอาศัยอยู่ในอังกฤษ หรือไอร์แลนด์สามารถสมัครเข้ามารับหนึ่งใน 10 บทบาทเสมือนจริง โดยผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับค่าจ้าง 13.15 ปอนด์ต่อชั่วโมง (อัตราค่าจ้างรายชั่วโมงของอิเกียลอนดอน)

โดยผู้เล่นในชุมชน Roblox จะสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์แบบเสมือนจริงและมีโอกาสชิงรางวัลพิเศษจากอิเกีย ความคิดริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘Careers Done Different’ ของอิเกีย ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่เพื่อนร่วมงานที่เป็น Gen Z

Alipay Little Purse ได้เปิดตัวเกมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในเดือนกรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกระแสโซเชียลมีเดียที่เรียกว่า ‘Pretend and Save’ ที่ผู้คนแชร์คำคมหรือแนวคิด เพื่อจูงใจให้ประหยัดและส่งเสริมนิสัยการออมให้ดีขึ้น

ในเกม Scripted Savings ของ Alipay นี้ประกอบไปด้วยการตอบคำถาม และทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อรับรางวัล โดยมูลค่าของรางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชี Little Purse ผู้เล่นที่มีรายได้เสมือนจริงมากขึ้น จะสามารถมีส่วนร่วมในบทสนทนา และเกมที่หลากหลายยิ่งขึ้น การเปิดตัวในเดือนแรก Scripted Savings มีผู้สนใจเข้าใช้งานถึง 400,000 ราย

ตัวอย่างเพิ่มเติม

Snapstock Exchange

SnapStock Exchange เปิดให้ผู้ใช้สามารถ “ลงทุน” ในคอนเทนต์ของเพื่อน ๆ โดยใช้เครดิตเสมือนจริง ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ที่แชร์ไว้ บนการคาดการณ์ว่าเทรนด์และผู้สร้างคอนเทนต์ไหนที่จะได้รับความนิยม เป้าหมายคือการเปลี่ยนการบริโภคคอนเทนต์แบบเรื่อยเปื่อย ให้กลายเป็นประสบการณ์การลงทุนแบบเกม และส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับเนื้อหาและผู้สร้างคอนเทนต์

WorthLife

WorthLife คือระบบนิเวศดิจิทัลที่เปลี่ยน Samsung Health ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มสกุลเงินเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม ผู้ใช้จะได้รับเครดิตสุขภาพผ่านกิจกรรมทางกาย การฝึกฝนทางจิตใจ และการมีส่วนร่วมทางสังคม ซึ่งสามารถแลกรับผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การแบ่งปันไปสู่ชุมชนทั่วโลก

การเฉลิมฉลองความไม่สมบูรณ์แบบในยุคของ AI

ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี กำลังกระตุ้นให้เกิดการคิดทบทวนความหมายของการเป็นมนุษย์ในรูปแบบใหม่ และสิ่งนี้กำลังปรากฏให้เห็นในปรากฏการณ์วัฒนธรรมป๊อปอย่าง Brat Summer และ Inside Out 2 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงกระตุ้นอันทรงพลังในการกลับมามองข้อบกพร่อง ความไม่เป็นระเบียบ และจุดอ่อน ที่เป็นความหมายและเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิต

เมื่อเนื้อหาและโฆษณาที่เน้นการใช้ AI และอัลกอริทึมเริ่มแพร่หลายออกไปอย่างมหาศาล หลายๆ คนก็เริ่มรู้สึกต่อต้านความสมบูรณ์แบบ และกลับมายอมรับความเป็นจริงธรรมดาๆที่วุ่นวาย ยุ่งเหยิง และไม่เป็นระเบียบ และกระแสนี้เริ่มรุนแรงขึ้น ผู้บริโภคปรารถนาให้แบรนด์ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบคนธรรมดา เพื่อให้มนุษย์กลับมาเป็นจุดศูนย์กลางอีกครั้ง

จากมุมมองของแบรนด์ นั่นอาจหมายถึงการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ การสนับสนุนการแสดงออกทางอารมณ์แบบตรงไปตรงมา เมื่อเรามาอยูในจุดที่มีความซับซ้อนของมนุษย์ การที่แบรนด์แสดงให้เห็นคุณค่าของความแตกต่าง จะเป็นเรื่องที่สามารถชนะใจผู้บริโภคในยุคนี้ เราจึงต้องกลับมาดูว่าแบรนด์ของเราจะมีส่วนร่วมในการเขียนบทใหม่ของ humanifesto ได้อย่างไร

เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีพื้นที่แสดงความรู้สึก Miista แบรนด์แฟชั่นจากลอนดอน ได้เปลี่ยนมุมหนึ่งของร้านในนิวยอร์กเป็นห้องระบายความโกรธก่อนการเปิดตัวร้านอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2024

พื้นที่นี้ตกแต่งด้วยสิ่งของจิปาถะที่คนทั่วเมืองทิ้งขว้าง และ Miista ได้เชิญสมาชิกของชุมชนในนิวยอร์ก มาระบายความหงุดหงิดด้วยการขว้างปา และทำลายข้าวของในห้องนั้น แนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาเป็น ‘กำแพงระบายความโกรธของชุมชน’ ที่ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถเขียนความกังวล ความไม่พอใจ ความคับข้องใจ (ทั้งเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการเมือง) ลงบนกระดาษ Post-It ที่ถูกจัดแสดงไว้บนกำแพง

หลังจากการสำรวจผลพบว่า 87% ของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยอมรับว่าล้มเหลวในการทำอาหารเองช่วงเทศกาล Knorr จึงได้เปิดตัว #EffortIsEverything ก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้าในเดือนพฤศจิกายน 2024 ภาพหายนะจากทำอาหารในชีวิตจริงของผู้บริโภค 3 รายถูกจัดแสดงบนช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์และโฆษณาดิจิทัล Out Of Home ในนิวยอร์กซิตี้

นอกจากนี้ ยังมีภาพนี้ในบรรจุภัณฑ์ลิมิเต็ดอิดิชั่นของ Knorr ที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลได้ทาง Instagram แฟนๆของ Knorr ยังสามารถโพสต์ภาพอาหารของตัวเองบนโซเชียลมีเดียพร้อมแฮชแท็กของแคมเปญได้อีกด้วย

Nonna’s Cam เป็นกล้องอนาล็อก (แบบที่คนรุ่นเก่าชอบใช้) และเติมความสนุกด้วยการเพิ่มเงานิ้วมือบังเลนส์เหมือนที่เราถ่ายภาพผิดพลาดกันจริง ๆ โปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ส่วนตัวของ Augusto Callegari และ Pedro Mezzini (หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Surfers) จากมาดริด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำเกี่ยวกับภาพถ่ายในวัยเด็กซึ่งมักมี ‘ความผิดพลาดในการถ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ’

จากการสัมภาษณ์กับ It’s Nice That เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 Mezzini ให้ความเห็นว่า “ในโลกปัจจุบัน ที่เราหมกมุ่นอยู่กับการเซลฟี่แบบไร้ที่ติ และการแต่งภาพนับครั้งไม่ถ้วน โปรเจกต์นี้อยากแสดงความชื่นชมในความงามของสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ ยอมรับกับผลงานแบบมือสมัครเล่น และ ‘ความผิดพลาด’ แบบนี้ เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์”

ตัวอย่างเพิ่มเติม

Impact Unpacked

Impact Unpacked แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งแปลงสถิติผลกระทบจากความแห้งแล้งให้กลายเป็นเรื่องราวส่วนตัวที่เราสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างลึกซึ้ง จากความจำเจเดิม ๆ ที่แสดงภาพผู้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง แสดงผลสำเร็จในการช่วยเหลือ

แพลตฟอร์มนี้ทำในสิ่งที่แตกต่าง โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางของผู้สนับสนุนแต่ละคน การเผชิญความท้าทาย อุปสรรค และชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงสะท้อนภาพคนที่ตระหนักถึงปัญหา และหาทางแก้ไข เน้นย้ำถึงความเป็นจริงที่ยากลำบาก และความวุ่นวายของการทำงานในแต่ขั้นตอน ซึ่งแตกต่างอย่างสุดขั้วเมื่อเทียบกับความสำเร็จที่มักจะถูกนำเสนอแบบที่ขัดเกลาให้สวยงามเพียงด้านเดียว

Nintendo Sympathy Quest

ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการเดินทางของผู้เล่น ที่ต้องฝ่าฟันด่านที่มีความซับซ้อนของอารมณ์มนุษย์ ผู้เล่นจะได้มีส่วนร่วมกับตัวละคร ที่มีเส้นทางที่เชื่อมโยงกับความท้าทายทางอารมณ์ สะท้อนจากประสบการณ์ในชีวิตจริง

เทคโนโลยีสัมผัส (Haptic feedback technology) ช่วยให้คนเล่นดิ่งสู่สภาวะทางอารมณ์ของอวตารมากยิ่งขึ้น สร้างสะพานเชื่อมระหว่างโลกดิจิทัลและโลกกายภาพไปอีกขั้น