fbpx
News update

“5G” คือยุคทองของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลก

onlinenewstime.com : เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2019 ที่ลิสบอน โปรตุเกส นาย กัว ผิง ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระ ของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวเปิดงานบนเวที Web Summit และเชิญชวนกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลก หันมาใช้ประโยชน์จากโอกาสทอง ของการมาถึงของ 5G ที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีอื่นๆ

นายกัว ผิง ได้กล่าวในหัวข้อ “5G+X สร้างสรรค์ยุคอัจฉริยะ” ว่า 5G+X ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ AI, big data, VR และ AR จะผลักดันให้เกิดการเติบโต ชนิดก้าวกระโดด เปรียบได้กับตอนที่มีไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรก ในศตวรรษที่ 20

อย่างไรก็ตาม เขาเน้นย้ำว่า แอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อการใช้งานกับเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง ดังที่เห็นได้จากยุคอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน นักพัฒนาแอปพลิเคชัน คือผู้ที่ได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์มากที่สุด และมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดด้วย

5G จะมาเร็วกว่าที่คาด

ประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากเทคโนโลยี 5G ต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้บริโภค และภายในปลายปีนี้ คาดว่าจะมีเครือข่ายเทคโนโลยี 5G ในเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 60 เครือข่าย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้ ได้มีผู้ลงทะเบียนการใช้งาน 5G มากถึง 1 ล้านคนภายในเวลาเพียง 69 วันเท่านั้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก เทียบกับตอน 4G เปิดให้บริการเป็นครั้งแรก ที่ต้องใช้เวลากว่า 150 วัน จึงมีผู้ลงทะเบียนใช้งานในจำนวน 1 ล้านคน

นอกจากนี้การมาถึงของ 5G ยังมอบประโยชน์ ให้แก่ผู้ให้บริการสัญญาณเช่นกัน เนื่องจากผู้ใช้บริการ 5G ใช้งานปริมาณดาต้าในเวลามากกว่าผู้ใช้งาน 4G ถึงสามเท่า

นายกัว ผิง กล่าวว่า  “ด้วยความเร็วการเชื่อมต่อระดับสูง ความหน่วงของสัญญาณที่ต่ำ และการรองรับการเชื่อมต่อปริมาณมหาศาลของ 5G ทำให้เทคโนโลยีนี้ สามารถรองรับประสบการณ์การใช้งาน Internet of Things (IoT) ที่เหนือชั้นได้อย่างไร้ปัญหา ซึ่งในอนาคต 5G จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนอย่างนับไม่ถ้วน”

5G+X กับการยกระดับภาคอุตสาหกรรม โดยมีแอปพลิเคชันเป็นหัวใจสำคัญ

นายกัว ได้ยกตัวอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า การผสมผสาน 5G กับเทคโนโลยีอื่นๆ จะสามารถยกระดับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ เช่น เปิดโอกาสให้นักดนตรี สามารถจัดคอนเสิร์ตทางไกลร่วมกัน และแสดงผลภาพแบบเรียลไทม์ ที่ความละเอียด 8K, การใช้เทคโนโลยี 5G+AR+AI ช่วยยกระดับความปลอดภัยของพนักงาน ในโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติการ และการบำรุงรักษา

นอกจากนี้การใช้ AI ยังช่วยให้แพทย์ สามารถตรวจคนไข้จากระยะไกล แบบเรียลไทม์ได้ โดยได้เน้นย้ำว่าแอพพลิเคชันและซอฟต์แวร์ต่างๆ คือตัวที่จะสร้างมูลค่าที่แท้จริงทางเศรษฐกิจได้มากที่สุด และผู้ชนะที่แท้จริง ก็คือพาร์ทเนอร์ของหัวเว่ย ที่อยู่ในตลาดซึ่งมีมูลค่าสูงถึงหลักล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนั่นเอง

ส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชัน

หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับ ผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ในการวางรากฐานให้กับอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในอนาคตหัวเว่ยจะมุ่งเน้น ไปในด้านอุปกรณ์มือถือ และเทคโนโลยีคลาวด์เป็นหลัก

โดยโครงการที่หัวเว่ยวางไว้ เพื่อสนับสนุนนักพัฒนา ที่ต้องการจะใช้โอกาสจากเทคโนโลยี 5G+X อย่างเต็มที่ นั้น ได้ริเริ่มไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Huawei Developer Program 2.0 และโครงการ Shining-Star Program

ซึ่งใช้เม็ดเงินลงทุนกับโปรแกรม Huawei Developer Program 2.0 ไปแล้วกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายศักยภาพ ให้สามารถรองรับนักพัฒนาถึง 5 ล้านคนได้ และยังได้ใช้เงินลงทุนอีกกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในโปรแกรม Shining-Star Program เพื่อดึงดูดแอปพลิเคชันระดับคุณภาพจำนวนมาก เข้าสู่อีโคซิสเต็มของ Huawei Mobile Services (HMS)

อีโคซิสเต็ม Huawei Mobile Services จะกระตุ้นให้นักพัฒนา ผสมผสาน และปรับแต่งแอปพลิเคชัน ให้มีความยืดหยุ่น และสามารถรองรับสถานการณ์การใช้งาน ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

นาย กัว ผิง กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “5G+X เปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งยุคใหม่ ราวกับการมาถึงของไฟฟ้า และจะเป็นกุญแจสำคัญ ที่นำพาเราเข้าสู่โลกอัจฉริยะ ซึ่งหัวเว่ยเอง มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน 5G+X และก้าวสู่ยุคอัจฉริยะอย่างเต็มตัว”