Onlinenewstime.com : DeepSeek สร้างแรงกระเพื่อมอะไรในวงการ AI? ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ชื่อของ “DeepSeek” กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงเทคโนโลยีและตลาดหุ้น ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย
หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมสตาร์ทอัพจากประเทศจีนรายนี้จึงได้รับความสนใจอย่างมาก เหตุผลที่ทำให้ DeepSeek กลายเป็นกระแสมีอยู่หลายประการ ตั้งแต่เทคโนโลยี AI ที่ล้ำหน้า ต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำ ไปจนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในตลาดโลก
DeepSeek คือใคร? ทำไมถึงถูกจับตามอง?
DeepSeek ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 โดย เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ชาวจีน วัย 40 ปี ที่กำลังสร้างกระแสในวงการเทคโนโลยี AI ทั่วโลก และมีเป้าหมายในการพัฒนาโมเดล AI ที่สามารถแข่งขันกับบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ
ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าแต่ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงหรือเหนือกว่า ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปีนั้น ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ที่ทรงพลังหลายตัว ตามมา
เริ่มจาก DeepSeek Coder โมเดลโอเพนซอร์สที่ช่วยในงานเขียนโค้ด ต่อมา คือ DeepSeek-R1 โมเดลที่มีความสามารถด้านการให้เหตุผลเชิงซับซ้อนและการเขียนโค้ด ประสิทธิภาพเทียบเท่า GPT-4 และ DeepSeek-V3 โมเดลที่ผลักดันให้ DeepSeek ครองตำแหน่งแอปพลิเคชันฟรียอดนิยมอันดับ 1 บน Apple App Store ในสหรัฐฯ
ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการใช้ต้นทุนพัฒนาเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง OpenAI หรือ Google AI อย่างมีนัยสำคัญ ต้นทุนที่ต่ำนี้ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังเป็นคู่แข่งโดยตรงต่อบริษัท AI รายใหญ่อื่น ๆ อีกด้วย
ผลกระทบต่อวงการ AI และตลาดหุ้น
ประการแรก การเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยสร้างแรงกดดันต่อบริษัทที่พัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์อยู่แล้ว เช่น OpenAI, Google และ Microsoft ซึ่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้แข่งขันได้
ประการที่สอง หุ้นเทคโนโลยีผันผวน เพราะจากความสำเร็จนั้น ส่งผลทำให้หุ้นของ Nvidia และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ตกต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ประการที่สาม เป็น AI โอเพนซอร์สมาแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ที่มีผู้นำเป็นบริษัทขนาดใหญ่
ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในระดับโลก แต่ยังเริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษา นักพัฒนา และธุรกิจที่ต้องการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในภาคการศึกษาและการวิจัย เป็นเครื่องมือช่วยค้นคว้าและพัฒนาโปรเจกต์ AI และในกลุ่มการเขียนโปรแกรม เนื่องจากเป็นโอเพนซอร์สและใช้งานได้ฟรี ภาคธุรกิจเริ่มจับตามอง: บริษัทเทคโนโลยีไทยเริ่มทดลองใช้โมเดลของ DeepSeek ในการวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI
อนาคตการแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่
การแข่งขันในตลาด AI เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย DeepSeek ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google, และ Microsoft ในด้านต่าง ๆ:
- ต้นทุนและการเข้าถึง ที่มีการเปิดให้ใช้งานฟรี ในขณะที่ ChatGPT และโมเดล AI อื่น ๆ มักมีค่าบริการ
- ประสิทธิภาพของโมเดล DeepSeek กล่าวว่าประสิทธิภาพของโมเดลตนเองเทียบเท่าหรือเหนือกว่า GPT-4 ในบางด้าน
- การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งอาจช่วยให้พัฒนาได้เร็วขึ้น แต่ก็มาพร้อมข้อจำกัดเรื่องเสรีภาพในการใช้งาน
ในขณะที่ DeepSeek ยังคงเติบโตและสร้างกระแสไปทั่วโลก อุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การแข่งขันระหว่างผู้เล่นรายใหญ่และสตาร์ทอัพหน้าใหม่อย่าง DeepSeek อาจทำให้ตลาด AI มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้
เรียกได้ว่า ไม่ใช่เพียงแค่ AI สตาร์ทอัพทั่วไป แต่เป็นตัวแปรสำคัญที่กำลังเขย่าวงการเทคโนโลยีทั่วโลกและในประเทศไทย ติดตามต่อไปว่าการแข่งขันในตลาด AI จะดำเนินไปในทิศทางใด และผู้เล่นรายใดจะสามารถครองความได้เปรียบในยุค AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้