fbpx
News update

เร่งจัดการ “ปลาหมอคางดำ” เป้าหมาย 3 ล้านกก. ดึงงานวิจัยและนวัตกรรม “ชุดโครโมโซม 4N” ทำหมันปลา และนำมาผลิตภัณฑ์เป็นแปรรูป”

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการขจัดปัญหาปลาหมอคางดำ ล่าสุด กรมประมงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนิน“โครงการแก้ไขปัญหาเพื่อขจัดภัยจากการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ระยะเร่งด่วน”

ระหว่างการยางแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมวิชาการเกษตร ร่วมดำเนินงานแบบบูรณาการ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ ด้านวิชาการ และการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำปลาหมอคางดำที่จับออกจากธรรมชาติ

โดยนำไปกำจัดด้วยกรรมวิธีที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ เพื่อรองรับและสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ โดยต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หลักเกณฑ์การปฏิบัติของทุกหน่วยงาน

นายอนุกูล กล่าวว่า การลงนามดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ  Big Cleaning ครั้งใหญ่ โดยมุ่งขจัดปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำให้หมดไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร ดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 1 คือ การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่ง และการนำปลาหมอคางดำที่กำจัดเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ตามวาระแห่งชาติในการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ตามมาตรการที่ 3 ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570 สำหรับงบประมาณในการบริหารจัดการนั้น มาจากเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร

วงเงินงบประมาณ 60 ล้านบาท มีเป้าหมายกำจัดปลาหมอคางดำ จำนวน 3,000,000 กิโลกรัม ซึ่งสอดคล้องตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. 2554 มาตรา 7 (4) การดำเนินการที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อป้องกันและขจัดภัยอันจะเป็นผลเสียหายแก่เกษตรกร

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการโดยใช้วิธีธรรมชาติ คือ การปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินการการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในระยะยาว เช่น การเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4N เพื่อให้เกิดหมันในปลาหมอคางดำ และกรอบแนวทางงานวิจัยอื่น ๆ 

ซึ่งกรอบงานวิจัยเหล่านี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของบประมาณจาก สวก. นอกจากนี้ ยังมีแผนระยะยาว สำหรับฟื้นฟูระบบนิเวศ  ฟื้นฟูแหล่งอาศัย  ปล่อยสัตว์น้ำประจำถิ่น เพื่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศอีกด้วย  

“จากแนวทางการปฏิบัติงานและความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเป็นรูปธรรม จะสามารถช่วยบรรเทาให้วิกฤตการระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทยดีขึ้นและจะขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศของแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยได้อย่างยั่งยืน” นายอนุกูล ย้ำ