เอไอเอส โดย AIS Business แถลงวิสัยทัศน์ และนโยบาย ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider” สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าองค์กรทุกขนาด รองรับการเติบโต และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกอุตสาหกรรม
การจะก้าวขึ้นสู่ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจรนั้น มาจากความแข็งแกร่งของบริษัท และบุคลากรในเครือทั้งหมด อาทิ CS Loxinfo, Teleinfo Media, Rabbit Line Pay ฯลฯ และการผนึกศักยภาพจากพันธมิตรด้านไอทีระดับโลก อาทิ Microsoft, G-ABLE, SAP, VMware ฯลฯ พร้อมให้บริการด้าน ICT อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร เพื่อผู้ใช้งานองค์กรทุกกลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ Network, Digital Infrastructures, Cloud, IOT, ICT, Digital Platforms ในรูปแบบของพาร์ทเนอร์และ อีโคซิสเต็ม ด้วยมาตรฐานระดับเวิล์ดคลาส พร้อมเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างประโยชน์ให้กับทุกธุรกิจในยุค Digital Transformation เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ แก่เศรษฐกิจไทย พร้อมจัดงานสัมมนาและเทคโนโลยีโชว์เคสแห่งปี “AIS Business: The DIGITAL FUTURE 2019” ร่วมฟังวิสัยทัศน์จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรแนวหน้าของไทยและสากล พร้อมสัมผัส Digital Solutions ที่ใช้งานได้จริง จากหลากหลายอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ในช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่จาก Digital Disruption ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในวิถีชีวิตและทุกอุตสาหกรรม ซึ่งในแง่ขององค์กร นี่คือโอกาสใหม่ครั้งสำคัญที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง Transform องค์กรสู่ Innovation Organization เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่า ยุคนี้องค์กรต้องทำ Business Transformation ใน 2 ด้าน คือ
1. ยกระดับการบริหารจัดการองค์กร ใน 3 ส่วน คือ ปรับกระบวนการทำงานหลักให้เป็น Digital (Digitizing Core Processes), ปรับรูปแบบช่องทางการส่งมอบบริการลูกค้าให้เป็น Digital (Digitizing Customer Interface) และ คิดค้นและขยายองค์กรสู่รูปแบบบริการหรือธุรกิจใหม่ๆ (Discovering and Scaling by Digital)
2. ยกระดับและให้ความสำคัญกับกระบวนการเพื่อลูกค้า ใน 3 ส่วน คือ เข้าใจ/รู้จักลูกค้าอย่างลึกซึ้งผ่าน Big Data, สร้างสรรค์นวัตกรรมที่แตกต่างตลอดเวลา ด้วย Speed
“จึงเป็นที่มาของการ transform สู่ Digital Life Service Provider ของเอไอเอส ที่เป็นการปรับทั้งองคาพยพ ไม่ว่าจะเป็น Digital Infrastructure, Digital Service และ Culture Transformation ทำให้วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ส่งเสริม สนับสนุนองค์กรทุกกลุ่มและทุกอุตสาหกรรมให้ยกระดับไปอีกขั้นจาก Ecosystem ในโลกดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากแนวคิด “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider”
ด้านนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เปิดเผยว่า “วันนี้ เอไอเอสมีความพร้อมอย่างยิ่งทั้งในด้านเครือข่าย และเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่พร้อมจะก้าวสู่การเป็น “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider” ที่อยู่เคียงข้างองค์กรธุรกิจ ภายใต้แบรนด์ AIS Business ตามเจตนารมย์ของบริษัทที่มุ่งมั่นตั้งใจนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
รวมถึงทีมงานบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี มาสนับสนุนภาคธุรกิจและองค์กรของไทยให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นจากขีดความสามารถด้านโครงข่าย Digital Infrastructures ที่ทรงประสิทธิภาพเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ได้แก่
– เครือข่าย Mobile : เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศ รวมทั้งมีคลื่นความถี่หลักในการให้บริการ 4G มากที่สุด
– เครือข่าย Fixed Broadband : เอไอเอส ไฟเบอร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติกแท้รายแรกในประเทศ ครอบคลุมแล้วกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ
– เครือข่าย IoT : เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีทั้งโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย
– เครือข่าย Fixed Broadband : เอไอเอส ไฟเบอร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติกแท้รายแรกในประเทศ ครอบคลุมแล้วกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ
– เครือข่าย IoT : เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีทั้งโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย
รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยี และ Digital Services ทั้งที่จากการ Synergy ความแข็งแกร่งของบริษัทและบุคลากรในเครือทั้งหมด อาทิ CS Loxinfo, Teleinfo Media, Rabbit Line Pay ฯลฯ ร่วมกันให้บริการและทำตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าองค์กร และการผนึกศักยภาพจากพันธมิตรด้านไอทีชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft, G-ABLE, SAP, VMware ฯลฯ ทำให้สามารถให้บริการ Digital Platforms และ Solutions หลากหลายด้าน
นับตั้งแต่ Network, Data Center, Cloud, Managed ICT Services, IoT, Payment ได้อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร ไม่ใช่เพียงเรื่องเครือข่ายเท่านั้น แต่ครอบคลุมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ Device, Platform, การออกแบบ Software และ Application, ระบบ Cloud Computing ระดับเวิล์ดคลาส, eSIM ที่พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ รวมทั้งที่เกี่ยวข้องในอีโคซิสเต็มทั้งหมด และยังสามารถ Customized โซลูชั่นส์ให้สอดคล้องกับแต่ละองค์กรในแต่ละอุตสาหกรรมได้ด้วย เหล่านี้ AIS Business พร้อมให้คำปรึกษากับทุกองค์กรที่สนใจนำเทคโนโลยีไปใช้ในการทำงาน” นายยงสิทธิ์กล่าว
บริการด้าน ICT ของ AIS Business ประกอบด้วยบริการหลักๆ ดังนี้
1. บริการ Cloud & ICT เพื่อธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ
ด้วยคุณภาพการให้บริการที่เหนือกว่าในทุกมิติ ภายหลังการซินเนอร์ยี่กับบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ เมื่อเดือนตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งบริการ Cloud ของเอไอเอสในทุกๆ ด้าน ทำให้มี DATA CENTER ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตามภูมิภาคต่างจังหวัด รวม 9 แห่งทั่วประเทศ
ส่งผลให้ปัจจุบันเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการ Cloud ที่มี DATA CENTER ในไทยจำนวนมากที่สุด ซึ่งได้มาตรฐาน Carrier Grade Data Center เทียบชั้นระดับโลก มากไปกว่านี้ การที่เอไอเอสมีเครือข่ายคุณภาพ 3G, 4G, 4.5G และบริการสื่อสารข้อมูล (Enterprise Data Service) จึงทำให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กรได้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่า รวมถึงมีบริการ ICT Service ที่หลากหลายจากซีเอส ล็อกซอินโฟทั้งหมด
ตลอดจนนำทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาร่วมให้บริการ Managed Networkและ Managed ICT Services เหล่านี้ จึงสามารถให้บริการ Cloud ได้แบบ End-to-End Single Service Provider อย่างครบวงจร ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Platform, Software, Network, Security ไปจนถึง Managed Services ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรม ใช้ได้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงผู้ประกอบการ SME และ Startup
นอกจากนี้ ยังออกบริการใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลก อาทิ
– Data Analytics as a Service ร่วมกับ G-Able สำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการนำข้อมูล มาวิเคราะห์และบริหารจัดการข้อมูลบนระบบ Cloud ด้วยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Server ขนาดใหญ่ ในราคาที่ต่ำกว่า ยืดหยุ่นกว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอที ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การเพิ่มรายได้จากแผนการตลาดได้อย่างตรงจุด
– SAP Business One ร่วมกับ SAP เพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ช่วยจัดการระบบงานขาย และระบบบัญชีแบบครบวงจร โดยมีจุดเด่นเพื่อ SME คือ ขึ้นระบบได้เร็ว สามารถขยายตัวเติบไปพร้อมกับธุรกิจได้ ประหยัดเวลาและงบประมาณด้าน Hardware
– SD-WAN ร่วมกับ CISCO และ VERSA เทคโนโลยีบริหารจัดการเครือข่ายที่ล้ำหน้า โดยใช้ Software เป็นตัวกลางในการจัดการเครือข่ายทั้งหมดในจุดเดียว ทำให้การใช้งานร่วมกันกับเครือข่ายหลากชนิดพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นวงจรส่วนบุคคล, อินเทอร์เน็ต หรือ 3G/4G จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกันก็ทำได้อย่างง่ายดาย เป็นรายแรกในเมืองไทย
– SAP Business One ร่วมกับ SAP เพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ช่วยจัดการระบบงานขาย และระบบบัญชีแบบครบวงจร โดยมีจุดเด่นเพื่อ SME คือ ขึ้นระบบได้เร็ว สามารถขยายตัวเติบไปพร้อมกับธุรกิจได้ ประหยัดเวลาและงบประมาณด้าน Hardware
– SD-WAN ร่วมกับ CISCO และ VERSA เทคโนโลยีบริหารจัดการเครือข่ายที่ล้ำหน้า โดยใช้ Software เป็นตัวกลางในการจัดการเครือข่ายทั้งหมดในจุดเดียว ทำให้การใช้งานร่วมกันกับเครือข่ายหลากชนิดพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นวงจรส่วนบุคคล, อินเทอร์เน็ต หรือ 3G/4G จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกันก็ทำได้อย่างง่ายดาย เป็นรายแรกในเมืองไทย
2. บริการ IoT เชิงพาณิชย์
โดยเอไอเอสเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่เปิดให้บริการโซลูชั่นส์ IoT เชิงพาณิชย์แล้ว กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำของประเทศ ด้วยศักยภาพของเครือข่าย IoT ทั้ง NB-IoT และ eMTC ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรความร่วมมือจากโครงการAIAP (AIS IoT Alliance Program) ที่มีสมาชิกรวมกว่า 800 รายที่ร่วมกันสร้างสรรค์ IoT Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้เอไอเอสสามารถทำงานและต่อยอดความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการร่วมกันวิจัยและพัฒนา และการออกโซลูชั่นส์ด้าน IoT เพื่อประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจจริงๆ ตลอดจนการนำ IoT สนับสนุนนวัตกรรมสมาร์ทซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การคมนาคม คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่างโซลูชั่นส์ IoT
– Smart Transportation สำหรับงานขนส่งคมนาคม โดยความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ NB-IoT Tracking บนรถตำรวจ
– Smart Recognition ช่วยจดจำ ตรวจสอบ วัตถุ ยานพาหนะหรือบุคคลโดยกล้องวีดิโอามารถประยุกต์ใช้งานด้านความปลอดภัย และด้านการตลาด Customer Care
– Smart Cold Chain ช่วยบริหารจัดการตู้แช่-ห้องเย็น โดยความร่วมมือกับบริษัท The Cool
– Smart Health ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ
– Smart Industrial Estate ช่วยบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ร่วมกับ อมตะนคร
– Smart Recognition ช่วยจดจำ ตรวจสอบ วัตถุ ยานพาหนะหรือบุคคลโดยกล้องวีดิโอามารถประยุกต์ใช้งานด้านความปลอดภัย และด้านการตลาด Customer Care
– Smart Cold Chain ช่วยบริหารจัดการตู้แช่-ห้องเย็น โดยความร่วมมือกับบริษัท The Cool
– Smart Health ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ
– Smart Industrial Estate ช่วยบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ร่วมกับ อมตะนคร
3. บริการ Digital Transformation Solutions
แอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการองค์กรในลักษณะ Project-based ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละธุรกิจ อาทิ
– Smart Retail ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่
– Points & Privilege แพลทฟอร์มระบบสะสมคะแนน และสิทธิพิเศษของธุรกิจตนเอง
– Robot-as-a-Service การให้บริการหุ่นยนต์พร้อมระบบควบคุม ให้องค์กรสามารถกำหนดพฤติกรรมหุ่นยนต์ การโต้ตอบ การให้ข้อมูล แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
– Smart Call ระบบสำหรับธุรกิจที่ต้องส่ง Agent ไปติดต่อลูกค้าเพื่อให้บริการที่ Site งาน
– Points & Privilege แพลทฟอร์มระบบสะสมคะแนน และสิทธิพิเศษของธุรกิจตนเอง
– Robot-as-a-Service การให้บริการหุ่นยนต์พร้อมระบบควบคุม ให้องค์กรสามารถกำหนดพฤติกรรมหุ่นยนต์ การโต้ตอบ การให้ข้อมูล แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
– Smart Call ระบบสำหรับธุรกิจที่ต้องส่ง Agent ไปติดต่อลูกค้าเพื่อให้บริการที่ Site งาน
4. บริการ Digital Payment Gateway
พร้อมให้บริการเชื่อมต่อระบบชำระเงินของธุรกิจให้สามารถรองรับการชำระเงินแบบดิจิตอล โดยผสานศักยภาพของบริษัทในเครือ ทั้ง Rabbit LINE Pay และ mPAY ทำให้สามารถออกแบบโซลูชั่นส์ด้าน Payment ให้กับลูกค้าองค์กรได้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการ ICT รายอื่น
5. บริการ Digital Marketing & Outsource Contact Center
ด้วยประสบการณ์ของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย (บริษัทในเครือ) พร้อมตอบโจทย์การทำการตลาดดิจิทัลให้กับธุรกิจ เช่น YellowPages eCommerce Platform, SEO, Email Marketing, Social Marketing, การทำเว็บไซต์ รวมถึงบริการ Outsource Contact Center สำหรับธุรกิจในการติดต่อลูกค้า ทั้งกรณีรับสายลูกค้าและโทรหาลูกค้าสำหรับลูกค้าองค์กรและเอสเอ็มอี ที่สนใจใช้บริการ AIS Business สามารถติดต่อได้ที่ ทีมงานของ AIS ที่ดูแลลูกค้าองค์กร, AIS Corporate Call Center 1149 หรือที่ ด้วยขีดความสามารถของบุคลากรที่ได้พัฒนาความรู้และความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดิจิทัล ผสมผสานเข้ากับหัวใจบริการ และทัศนคติที่มุ่งช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตลอดจนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่บริหารงานอย่างมืออาชีพมาโดยตลอด ผมขอยืนยันและให้ความมั่นใจกับท่านลูกค้าองค์กรทุกกลุ่ม ทุกขนาด ว่า ท่านจะได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงสุด เป็นเลิศ และแตกต่างอย่างแน่นอน เราพร้อมอยู่เคียงข้าง สร้างโอกาสใหม่ๆ จากเทคโนโลยีดิจิทัล และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายสมชัย กล่าว