fbpx
News update

บีเจซี รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนจากยูโอบี วงเงินกว่า 7,200 ล้านบาทเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593

โดยความเชื่อมโยงนี้จะพิจารณาจากผลการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืน (ESG Risk Rating) โดยบีเจซียังได้รับคะแนนดัชนีความยั่งยืนดาว์นโจนส์ (DJSI) สูงสุงของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples retailing เป็นระยะเวลา 2 ปีติดต่อกัน

ข้อตกลงของบีเจซีในการผสานกลยุทธ์ทางการเงินในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งเพื่อมุ่งสู่การบรรลุเกณฑ์มาตรฐานในการดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ตามเป้าหมายการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีพ.ศ. 2593

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บีเจซี ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชน สังคม โดยมีเป้าหมายว่าด้วย “การป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” อาทิ เพิ่มมาตรการเพื่อรับมือกับปัญหาอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) มีการวัดผลและมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท (Mitigation)

และส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมอย่างยั่งยืนทุกมิติ เช่น การใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จากการติดตั้ง Solar Roof และเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

โดยนำเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตหรือการดำเนินงานมาใช้ เช่น การใช้ AI เพื่อควบคุมการใช้พลังงาน การใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาใช้ประกอบการจำหน่ายสินค้าและให้บริการ เช่น ตะกร้าช้อปปิ้งในบิ๊กซี ซึ่งเป็นตะกร้าที่ลดการใช้พลาสติก เป็นต้น

นอกจากนี้ บีเจซี ตอกย้ำความเป็นผู้นำองค์กรด้านความยั่งยืนระดับโลก โดยประกาศความสำเร็จในการติดดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับ สูงสุดของโลกใน S&P Global Sustainability Yearbook ประจําปี 2566 ซึ่งบีเจซีถือเป็นบริษัทที่ได้รับคะแนน สูงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing นับตั้งแต่มีการประเมิน

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในอีก 28 ปีข้างหน้า หรือ
ปี 2593 ซึ่งยังสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารยูโอบีที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงเงินทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ภายใต้กรอบแนวคิดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อเมืองอัจฉริยะ (Smart City Sustainable Finance Framework) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย”

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันทั้งหน่วยงานกำกับดูแลด้านนโยบายและผู้บริโภคเองเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องการดำเนินธุรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืน ธนาคารจึงมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนด้านการเงินแก่บีเจซีในครั้งนี้

ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นของทั้งทางบีเจซีและธนาคาร ที่จะยกระดับมาตรฐานด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรม   ยูโอบีรู้สึกเป็นเกียรติที่เรามีส่วนสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบีเจซี ผ่านข้อตกลงด้านสินเชื่อทางการเงินและตราสารอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัท”

ทั้งนี้ นายอัศวิน กล่าวสรุปว่า “นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี พ.ศ. 2492 การดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นแนวคิดที่กลุ่มบีเจซีใช้เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจเสมอมา สินเชื่อจากยูโอบี ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย

ทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล  นอกจากนี้ การสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability linked loan) บริษัทได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565  โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 16,650 ล้านบาท”

“กลุ่มบริษัทบีเจซี บิ๊กซี ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำของประเทศไทย ที่มุ่งมั่นในการลดโลกร้อน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ตลอดจนการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน”