Onlinenewstime.com : 9 ตุลาคม 2566 เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมใน 30 จังหวัด มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 110 อำเภอ 414 ตำบล 2,112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,554 ครัวเรือน โดยปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สุโขทัย ขอนแก่น เลย กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และสมุทรปราการ ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงในทุกจังหวัด
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ช่วงระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 9 ตุลาคม 2566 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 30 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลำพูน อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก น่าน ตาก กำแพงเพชร แพร่ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุบลราชธานี กาญจนบุรี ลพบุรี นครนายก สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ตราด สตูล และยะลา รวมจำนวน 110 อำเภอ 414 ตำบล 2,112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,554 ครัวเรือน
โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สุโขทัย ขอนแก่น เลย กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และสมุทรปราการ รวมจำนวน 23 อำเภอ 65 ตำบล 575 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับผลกระทบ 16,870 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้
1. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ วังทอง เนินมะปราง และนครไทย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 347 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. อุตรดิตถ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เมืองอุตรดิตถ์ และน้ำปาด มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ไม่มีประชาชนได้รับผลกระทบ ระดับน้ำลดลง
3. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ ศรีสำโรง และคีรีมาศ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 22 ตำบล 144 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,860 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4. ขอนแก่น เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านแฮด กระทบ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 180 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5. เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เชียงคาน และท่าลี่ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 85 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
6. กาฬสินธุ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ เมืองกาฬสินธุ์ ร่องคำ ฆ้องชัย ยางตลาด กมลาไสย สามชัย ท่าคันโท หนองกุงศรี สหัสขันธ์ และห้วยเม็ก มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 55 ตำบล 362 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,917 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
7. อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 37 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,338 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
8. สมุทรปราการ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางบ่อ ผลกระทบ 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน ไม่มีประชาชนได้รับผลกระทบ ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงในทุกจังหวัด สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”