Onlinenewstime.com : เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงามระดับโลก เปิดตัวโครงการ “Merz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste” ครั้งแรกของโลก ชูจุดยืนขององค์กรด้วยแนวคิด ‘Merz Aesthetics WORK for Sustainability’
โครงการนี้มุ่งเน้นความยั่งยืนในหลายมิติ โดยเฉพาะการจัดการขยะจากหัตถการความงาม (Aesthetics Waste) ด้วยความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์คลินิกและพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ บริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด, แบรนด์ควอลี่ และ บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
พันธมิตรเหล่านี้จะมีส่วนร่วมในกระบวนการรับคืนและจัดการขยะจากหัตถการความงามของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย เช่น หัว Ultherapy Transducer และกล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ อย่างถูกวิธี โดยมุ่งลดการฝังกลบขยะสู่พื้นผิวโลกให้เป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) และสร้างความมั่นใจให้สังคมในการร่วมผลักดันสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทยจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์เสริมความงามที่ผลิตและนำเข้าจากยุโรป บริษัทได้เล็งเห็นปัญหาขยะจากหัตถการความงามมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงหัว Ultherapy Transducer ที่ใช้แล้วซึ่งสามารถนำมาเรียงสูงถึง 3,900 เมตร และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่มีน้ำหนักรวมถึง 18 ตัน
เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้บริหารสูงสุดบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย และสิงคโปร์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโครงการ Merz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste เป็นครั้งแรกของโลก และถือเป็นเกียรติของ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ที่ได้เป็นผู้นำในการพาวงการเวชศาสตร์ความงามของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ที่ไม่เพียงแต่เป็นการลดปริมาณขยะที่เกิดจากหัตถการความงาม แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
เราเชื่อว่าความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์คลินิกและพันธมิตรของโครงการฯ จะเป็นก้าวสำคัญในการนำพาธุรกิจของเราและประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว”
โครงการMerz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste เกิดขึ้นพร้อมแนวคิดกระบวนการ “เก็บกลับ ปรับโฉม ส่งคืนคุณ” ซึ่งคือการรับคืนและจัดการกับขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ด้วยวิธีรีไซเคิล (Recycle) และ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วหมดไปด้วยวิธีอัปไซเคิล (Upcycle) เพื่อนำกลับมาสร้างประโยชน์ใหม่อีกครั้ง
โดยกระบวนการนี้ได้นำหลักการลดการฝังกลบขยะสู่พื้นผิวโลกให้เป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) มาปรับใช้ ด้วยความตั้งใจที่จะนำทรัพยากรกลับมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เหลือขยะไปสู่หลุมฝังกลบน้อยลงและเป็นศูนย์ในที่สุด
ซึ่งในเฟสแรก เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ร่วมมือกับ 12 พาร์ทเนอร์คลินิกและพันธมิตรด้านการจัดการขยะชั้นนำได้แก่ บริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด และแบรนด์ควอลี่ โดยทั้งสองบริษัทจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้โครงการฯ บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนอย่างแท้จริง
นายชนัมภ์ ชวนิชย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด กล่าวว่า “รีไซเคิลเดย์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการลดและจัดการขยะจากหัตถการความงามอย่างยั่งยืนของ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย
โดยเราจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ยาวนานในด้านการจัดการและรีไซเคิลขยะมาตรฐานสากล มาช่วยผลักดันให้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้ในอนาคต”
นายธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์ นักออกแบบและผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ควอลี่ กล่าวว่า “แนวคิดความยั่งยืนเป็นหลักการสำคัญของควอลี่ในการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนไปพร้อมกับการรักษ์โลก
จึงเป็นที่มาของถังอเนกประสงค์ “มานะ” ซึ่งผลิตมาจากหัว Ultherapy Transducer ที่ใช้แล้วจากพาร์ทเนอร์คลินิกต่างๆ ของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย นำมาผ่านกระบวนการ upcycle ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งและยังสามารถนำไปใช้ได้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน”
ในปัจจุบัน มีคลินิกสีเขียวที่เข้าร่วมโครงการ Merz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste ในช่วงก่อนเปิดตัวโครงการจำนวน 12 คลินิก โดยเป็นคลินิกระดับแนวหน้าที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางคลินิกยินดีและได้ร่วมกันช่วยคัดแยกและนำส่งขยะที่เกิดจากหัตถการความงาม แบ่งเป็นหัว Ultherapy Transducer ที่นำไปผ่านกระบวนการ upcycle เป็นถังอเนกประสงค์ “มานะ” มากกว่า 1,936 หัว และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่ถูกนำไปรีไซเคิลมากกว่า 131 กิโลกรัม
เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ได้จัดทำเว็บไซต์เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของโครงการนี้ที่ www.merzaestheticssetzerowaste.com โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่าโครงการสามารถลดคาร์บอนฟุตพรินต์ได้ถึง 787 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงนำร่องของโครงการ
ภายในปี 2570 ตั้งเป้าที่จะขยายความร่วมมือกับคลินิกคู่ค้าสีเขียวเพิ่มขึ้นถึง 180 แห่ง ซึ่งจะสามารถช่วยกันลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากขยะที่เกิดจากหัตถการความงามเท่ากับ 9,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์
“เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการด้านความยั่งยืนของเราได้ดำเนินการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง ผ่านการดำเนินการจัดการขยะที่เกิดจากหัตถการความงามอย่างถูกต้องทั้งการรีไซเคิลและการนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้
เราต้องขอขอบคุณพาร์ทเนอร์คลินิกและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆ ท่านอีกครั้ง และขอเชิญชวนคลินิกคู่ค้าเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับวงการเวชศาสตร์ความงามและทำให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น” เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวปิดท้าย