onlinenewstime.com : บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ตอกย้ำถึงจุดยืน ด้านการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน เดินหน้าจัดโครงการ “วิสซ์ดอม รี ฟอเรสต์ บาย MQDC” เป็นปีที่ 3
เพื่อสร้างป่าต้นน้ำ ในการบรรเทาความรุนแรงจากภัยธรรมชาติ และเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ป่า โดยเลือกพื้นที่วนอุทยานเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นจุดเริ่มต้น ตั้งเป้าทำเป็นแผนระยะยาว 5 ปี และ 10 ปี ในการสร้างเครือข่ายและขยายผลต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกจุดของประเทศ
นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการแบรนด์วิสซ์ดอม MQDC กล่าวว่า “โครงการวิสซ์ดอม รี ฟอเรสต์ บาย MQDC คือโอกาสของทุกคน ในการมีส่วนร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว และเพิ่มสมดุลระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสานต่อจนเป็น Whizdom Re-forest Community Platform”
“เราเลือกพื้นที่บริเวณวนอุทยานเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเป็นแหล่งต้นน้ำ ที่ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ประโยชน์ในการเกษตร เป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้อยใหญ่ รวมถึงเป็นต้นน้ำ ที่ไหลผ่านจังหวัดนครนายกมายังคลองประปา ที่ซึ่งผลิตน้ำประปาที่เราใช้กัน
เมื่อเราตระหนักถึงความสำคัญนี้ เราจึงลงพื้นที่ กับหน่วยงานภาครัฐคือหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปจ. 1 (เขาอีโต้) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี กรมป่าไม้ ในการวางแผนเพื่อฟื้นฟูผืนป่าและแหล่งต้นน้ำลำธารต่อไป” นายอัษฎา กล่าว
โดยครั้งนี้ดำเนินการภายใต้แนวคิด ปลูก ฟื้น คืน ป่า “เพราะป่า คือบ้านของทุกชีวิต” ตั้งเป้าปลูกต้นกล้าพันธุ์ไม้จำนวน 11,500 ต้น 13 สายพันธุ์ที่มาจากการร่วมปลูกต้นไม้ออนไลน์ จากผู้สนใจทั่วไปทาง เวปไซด์ และสร้างฝายชะลอน้ำจำนวน 9 ฝาย
ซึ่งได้รับความร่วมมือ จากลูกบ้านโครงการวิสซ์ดอม บริษัทพันธมิตร นักเรียนนักศึกษา คนรุ่นใหม่ รวมถึงวิสซ์ดอม แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด “นาย – ณภัทร เสียงสมบุญ” เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 700 คน ถือเป็นการสร้าง Community Platform เพื่อขยายฐานกลุ่มคน ในการสานต่อโครงการ รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ในแบบฉบับของตนเอง ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่และคนในเมือง
นาย ณภัทร กล่าวว่า “ในฐานะคนรุ่นใหม่ ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในครั้งนี้ ผมรู้สึกชื่นชมทีมงาน ที่ได้คิดและจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมให้สังคมตระหนัก ถึงสภาพแวดล้อมที่กำลังมีปัญหา และหาทางเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา ทุกคนมีอุดมการณ์เหมือนกัน คือต้องการปลูก ฟื้น คืน ป่า เพื่อให้ป่านั้นกลับมาสมบูรณ์ เพราะป่าคือบ้านของทุกชีวิตครับ”
นายอัษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ผ่านมาตลอดทั้ง 4 ครั้ง ทางโครงการได้สร้างฝายชะลอน้ำมาแล้ว 35 ฝาย ปลูกต้นไม้รวมแล้วกว่า 12,500 ต้นมีคนมาร่วมมือกว่า 1,300 คน ถือได้ว่าวันนี้โครงการ Whizdom Re-forest ของเราได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับป่าในระยะยาวแล้ว”
นอกจากนี้โครงการวิสซ์ดอม รี ฟอเรสต์ บาย MQDC มีแผน ที่จะส่งเข้าประกวดรางวัล ทั้งในระดับ Asia และ Global โดยแบ่งเป็น 2 สาขา คือ ประเภท CSR และ Innovation and Invention Awards อีกด้วย