Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

‘NRF’ วางแผนเจาะตลาด Specialty Food ร่วมทุนพันธมิตรปูทางสู่ผู้ผลิตอาหารของโลก

NRF08072020-2

Onlinenewstime.com : ‘บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ ชูเทรนด์ Food for the Future พร้อมนำจุดแข็งต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ผ่านกลยุทธ์เข้าลงทุนกับพันธมิตรธุรกิจในไทยและต่างประเทศ ด้วยนวัตกรรมอาหารเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหารทั้งระบบ เจาะกลุ่มลูกค้า Millennial ทั่วโลก ผลักดัน NRF ก้าวเป็นผู้ผลิตอาหารระดับชั้นนำของโลก

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติ ที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape)  เปิดเผยว่า เทรนด์การบริโภคอาหารแห่งอนาคตถือเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยใช้กระบวนการผลิต จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่ออาหารสุขภาพ รวมทั้งยังคำนึงถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดอาหารในกลุ่ม Specialty Food ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา  ด้วยลักษณะอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี  ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์อาหาร Specialty Food ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษมี 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มอาหาร Ethnic Food หรือเทรนด์การหันมานิยมบริโภคอาหารต่างชาติโดยดัดแปลงผสมผสานกับอาหารท้องถิ่น จากแนวโน้มการรักษาสุขภาพ การทดลองอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านมากขึ้นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงการย้ายถิ่นฐาน ที่มากขึ้นทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตแบบถัวเฉลี่ยเกินกว่าร้อยละ 10 ไปจนในอีกหลายปีข้างหน้า 

2. กลุ่มอาหาร Plant-Based Food หรือ อาหารโปรตีนจากพืช ผลิตจากพืชตระกูลถั่ว เห็ด และสาหร่าย ทดแทนเนื้อสัตว์ ซึ่งได้รับความนิยมในการบริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสผู้บริโภค ที่ใส่ใจการรับประทานอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีโรคระบาดในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาบริโภคอาหารโปรตีนจากพืชมากขึ้น โดยยังคงได้รับรสชาติและผิวสัมผัสเหมือนเนื้อ แต่ได้รับสารอาหารจากพืช ทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชหลากหลายรูปแบบ ถูกพัฒนาและนำออกมาจำหน่ายในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและเป็นอนาคตของธุรกิจอาหาร

3. ผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape) นอกจากผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร ที่หลากหลายและมีคุณภาพระดับสากลแล้ว บริษัทฯยังมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค (Functional product) V-shape  ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ให้ความสะดวกสบาย เหมาะกับผู้บริโภคทุกวัย รวมถึงผู้ป่วยและผู้พิการ กับผู้ให้บริการด้านเครื่องจักร และนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ V-shape สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง ยา เวชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ในตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ คือ จะต้องปรับตัวรับกระแสการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความยั่งยืนและให้ความสำคัญกับการจัดการ Sustainable Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ การผลิต จัดเก็บ ขนส่งและจัดจำหน่าย ตลอดจนให้ความสำคัญ กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทุกฝ่าย ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นปัจจัย ที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคต้องการอาหารที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งต้องเป็นอาหารที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีสารอาหารครบ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว ช่วยให้สุขภาพดี เพื่อต้านทานโรค จึงถือเป็นโอกาสของธุรกิจในการผลิตสินค้ารองรับความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพอีกทางหนึ่ง

นายแดน ปฐมวาณิชย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตอาหารมาเป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปี และเห็นโอกาสเติบโตของกลุ่มอาหารแห่งอนาคต ที่เน้นกระบวนการคัดสรรคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างดีเยี่ยม จึงกำหนดแผนยุทธศาสตร์ให้บรรลุเป้าหมาย รองรับเทรนด์และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุค Millennial (Gen Me) ที่เป็นการรวมตัวจากหลากหลายกลุ่มอายุ มีเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนสูงและมีกำลังซื้อมหาศาล

ทั้งนี้ NRF ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อสร้างการเติบโตและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม โดยร่วมลงทุนกับ THE BRECKS COMPANY LIMITED หรือ ‘เบรคส์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมผลิตอาหารโปรตีนจากพืชในทวีปยุโรป ที่มีประสบการณ์และความชำนาญมานานกว่า 27 ปี โดยเบรคส์มีฐานการผลิตในประเทศอังกฤษ รับจ้างผลิตสินค้าโปรตีนจากพืช ให้กับตราสินค้าต่าง ๆ เช่น Quorn The Vegetarian Butcher และ Cauldron Foods และมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อขยายสู่ตลาดผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชในอเมริกาและยุโรป ทำให้ NRF เป็นบริษัทที่มีรูปแบบพร้อมรองรับผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต

นอกจากนี้ ได้เข้าลงทุนใน The Meatless Farm Limited หรือ Meatless Farm ในประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าในทวีปยุโรป อเมริกาและเอเชีย โดยผลิตอาหารจำพวกแฮมเบอร์เกอร์เนื้อเทียม โปรตีนจากข้าวและถั่ว รวมถึงหัวไชเท้า ที่สามารถให้รสชาติและรสสัมผัสเหมือนกับเป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์จริง

อีกทั้งเข้าลงทุนใน Big Idea Venture LLC หรือ Big Idea Venture และ New Protien Fund I ซึ่งเน้นลงทุนและสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ เกี่ยวกับอาหารโปรตีนจากพืช เพื่อเข้าถึงและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก นำประสบการณ์มาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

รวมถึงมีโอกาสได้ลูกค้าหรือพันธมิตรรายใหม่จาก Plant-based Startup-ecosystem  โดยมีเป้าหมายลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ 100 บริษัท ภายในระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิเป็น Preferred Co-Packer ให้กับสตาร์ทอัพต่าง ๆ ของกองทุน

ล่าสุด บริษัทฯ เข้าลงทุนใน Phuture Limited (“Phuture”) หนึ่งในสตาร์ทอัพด้าน Food Tech ในทวีปเอเชีย ที่ได้รับความสนใจจากบริษัทลงทุนระดับโลก มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์หมูสับเทียม ที่ผลิตจากโปรตีนจากถั่วเหลืองเป็นหลัก โดย NRF ลงทุนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจและโอกาสในการเป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับ Phuture หลังผลิตภัณฑ์พร้อมออกวางจำหน่าย

นอกจากนี้ ได้เข้าลงทุนในบริษัท ซิตี้ฟู้ด จำกัด ในจังหวัดนครปฐมและราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารพร้อมปรุง และอาหารสำเร็จรูป รวมถึงผลิตและจำหน่ายน้ำเต้าหู้สำเร็จรูปตรา Shinpo เพื่อเป็นฐานการผลิต ซึ่งจะผลักดัน NRF ก้าวเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก

ปัจจุบัน NRF เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรสชั้นนำ และอาหารโปรตีนจากพืช โดยมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 500 สูตรอาหาร และกว่า 2,000 SKU

ผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ

 1) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์พ่อขวัญ แบรนด์ Lee Brand แบรนด์ Thai Delight แบรนด์ Shanggie แบรนด์ DeDe และ   แบรนด์ Sabzu 

2) กลุ่มผลิตภัณฑ์รับจ้างผลิต (OEM และ Private Brand)

3) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food)

4) กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape) เช่น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือในบรรจุภัณฑ์ V-shape 

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ V-Shapes มากยิ่งขึ้น เช่น ซอสปรุงรส เครื่องปรุง เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น ในหลายรูปแบบ อาทิ การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ  การร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น

โดยมีจุดแข็งด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายสินค้า รวมถึงมุ่งสร้างตราสินค้าและสร้างชื่อเสียงของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านการออกงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

นายแดน กล่าวทิ้งท้ายว่า เราได้นำประสบการณ์ทำธุรกิจระยะเวลาเกือบ 30 ปี ในการส่งออกสินค้าสู่ 25 ประเทศทั่วโลกอาทิเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น จีนและมาเลเซีย เป็นต้น โดยลูกค้าปลายทางของบริษัทฯประกอบไปด้วยบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ทั่วโลก ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ มายาวนานมากกว่า 10 ปี 

“บริษัทฯ นำประสบการณ์ที่ได้รับ มาต่อยอดการผลิตอาหารเพื่ออนาคต รองรับเมกะเทรนด์อาหารของโลกที่เกิดขึ้น และผลักดัน NRF สู่ The Purpose-Led Company หรือ บริษัทที่ขับเคลื่อนองค์กรและแบรนด์ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้บริษัทฯ เป็นตัวเลือกรายแรกๆ ในการผลิตสินค้าแก่บริษัทอาหาร (สำเร็จรูป) ชั้นนำระดับโลก”

Exit mobile version