
Onlinenewstime.com : นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏว่ามีนายหน้าประกันวินาศภัยหลายแห่งมีพฤติกรรมการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทประกันวินาศภัยในนามของผู้เอาประกันกันภัย พร้อมกับมีการทำข้อตกลงหรือสัญญากับผู้เอาประกันกันภัยให้ผู้เอาประกันภัยผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย
หากผู้เอาประกันภัยไม่ผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนด นายหน้าประกันวินาศภัยจะเป็นผู้ใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยในนามผู้เอาประกันภัยกับบริษัท และเป็นผู้รับคืนเบี้ยประกันภัยจากบริษัท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงหรือสัญญาดังกล่าวมีลักษณะเป็นการให้สินเชื่อ ซึ่งมิใช่หน้าที่ตามกฎหมายของนายหน้าประกันวินาศภัย และเป็นแบบสัญญาสำเร็จรูปที่มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ล่วงหน้าให้ลูกหนี้หรือผู้เอาประกันภัยจะต้องมอบอำนาจในการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยให้กับเจ้าหนี้ หรือนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นข้อตกลงหรือสัญญาแยกต่างหากอีกฉบับหนึ่งจากสัญญาประกันภัย
โดยผู้เอาประกันภัยไม่สามารถต่อรองหรือเจรจาก่อนเข้าทำข้อตกลงหรือสัญญา แม้จะกำหนดให้นายหน้าประกันวินาศภัยจะต้องได้รับการยืนยันยันการบอกเลิกจากผู้เอาประกันภัยก็ตาม หากพิจารณาจากสถานการณ์ในทางปฏิบัติแล้ว เงื่อนไขดังกล่าวอาจไม่เอื้ออำนวยให้ผู้เอาประกันภัยได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนหรือเป็นไปได้ยากที่จะได้รับการยืนยันจากผู้เอาประกันภัยได้อย่างชัดแจ้ง
รวมถึงไม่มีการกำหนดแนวทางการดำเนินการที่เป็นธรรมกับผู้เอาประกันภัยกรณีผู้เอาประกันภัยไม่ยืนยืนการบอกเลิกข้อตกลงหรือสัญญาดังกล่าว จึงอาจมีลักษณะที่ทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียเปรียบเกินสมควร ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและต้องห้ามตามกฎหมาย ที่ไม่สามารถกำหนดไว้ในข้อตกลงหรือสัญญาได้
“สำนักงาน คปภ. ขอแจ้งเตือนว่า หากพบว่านายหน้าประกันกันวินาศภัย มีการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวไว้ในข้อตกลงหรือสัญญาให้สินเชื่อ และอาศัยเงื่อนไขดังกล่าว ในการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย โดยท้ายที่สุดบริษัทได้ยุติความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงมีการคืนเบี้ยประกันภัยไปยังนายหน้าประกันวินาศภัย กรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย และเป็นความผิดอันมีโทษ
ซึ่งนายหน้าประกันวินาศภัยที่กระทำความผิดอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันกันวินาศภัย และถือว่ามีพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ในการทำหน้าที่ (Conflict of Interest) ของนายหน้าประกันวินาศภัย ในฐานะผู้แทนของผู้เอาประกันภัย และที่สำคัญบริษัทประกันวินาศภัยยังคงต้องให้ความคุ้มครองต่อไปจนสิ้นอายุกรมธรรม์ประกันภัย
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อให้แจ้งบริษัทสมาชิกที่เป็นนายหน้าประกันภัยที่เป็นคู่สัญญาให้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงาน คปภ. หรือสายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย