fbpx
News update

“กาแฟพันธุ์ไทย” ตั้งเป้าสิ้นปีโตทะลุ 2 พันล้าน! รุกหนัก Home Coffee และ Specialty Coffee ส่ง “กาแฟดริป” ย้ำภาพลักษณ์ความยั่งยืน

ภายใต้แนวคิด Dripple Effect ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ ตอกย้ำจุดยืนสร้างระบบนิเวศยั่งยืน ตั้งแต่เกษตรกรถึงผู้บริโภค ตอกย้ำความมุ่งมั่นดูแลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อส่งต่อความยั่งยืนในทุกมิติ

อีกทั้งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่มุ่งขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเผยตัวเลขความสำเร็จ 9 เดือนแรก กวาดรายได้ 1,500 ล้านบาท และตั้งเป้าสิ้นปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท ตอกย้ำความมุ่งมั่นดูแลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อส่งต่อความยั่งยืนในทุกมิติ

ด้านภาพรวมธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยยังคงสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากงบการเงินระหว่างปี 2562-2566 มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 355 ล้านบาท เป็น 1,304 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 212.03 ล้านบาท

สำหรับภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2567 กาแฟพันธุ์ไทยทำรายได้สูงถึง 1,540 ล้านบาท เติบโต 75.1% พร้อมขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 1,126 สาขา หรือเติบโต 48.9% ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,282 – 1,300 สาขา

ส่วนยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) เติบโตเฉลี่ย 20-30% โดยมียอดต่อวันต่อสาขาที่ 100 – 120 แก้ว ทั้งนี้คาดการณ์ว่าปี 2567 พันธุ์ไทยจะสร้างรายได้รวมทะลุ 2,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กาแฟพันธุ์ไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์พรีเซนเตอร์ การจัดโปรโมชั่น การพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น specialty coffee และการเพิ่มเมนูเครื่องดื่ม non-coffee

ตลอดจนการสร้างแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยให้มีความแข็งแกร่งโดยชูความเป็นไทยในทุกกระบวนการผลิตตั้งแต่การสนับสนุนเกษตรกรไทย การใช้วัตถุดิบไทย และการรณรงค์เรื่องการปลูกกาแฟไทย

ข้อมูลจาก Euromonitor International ชี้ว่าตลาดกาแฟไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2564-2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.55% ต่อปี ในปี 2566 กาแฟสดมีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,519.1 ล้านบาท คิดเป็น 16% ของตลาดรวม สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์รสชาติกาแฟหลากหลาย เน้นความสะดวกสบาย และใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ภาพรวมตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดกาแฟในบ้าน 33,000 ล้านบาท และ ตลาดกาแฟนอกบ้าน 27,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาด Specialty Coffee ที่กำลังมาแรง ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ย 5-10% ต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 11% ของตลาดกาแฟทั้งหมด

ส่วนในตลาดโลก มูลค่าการตลาดกาแฟพิเศษ และเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกันกัน โดยมีสัดส่วน 20% ของตลาดกาแฟทั่วโลก สะท้อนกระแสการบริโภคกาแฟคุณภาพที่ขยายวงกว้างทั้งในไทยและระดับสากล

ในส่วนของ ตลาดกาแฟนอกบ้าน พันธุ์ไทยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน และขยายฐานให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความรู้ความเข้าใจในการคัดสรรกาแฟมากขึ้น ทั้งด้านแหล่งเพาะปลูก กระบวนการผลิต ไปจนถึงระดับการคั่ว พันธุ์ไทยจึงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าคุณภาพดี รสชาติพรีเมียม โดยคงความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสนับสนุนกาแฟไทย ในราคาเข้าถึงง่าย

สำหรับตลาดกาแฟในบ้านนั้น พันธุ์ไทยเดินหน้าพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดตัว 5 กาแฟอาราบิก้า 100% จาก 5 ดอยสูง การนำเสนอกาแฟพันธุ์ไทย สเปเชียล เบลนด์ ทั้งโทนนัตตี้ คั่วกลาง และฟรุตตี้ คั่วอ่อน รวมถึงกาแฟดริปพันธุ์ไทย 9 รสชาติจาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟชื่อดัง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดกาแฟแคปซูลแบบ Home Compostable แบรนด์แรกของไทย ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุย่อยสลายได้ 100%  โดยไม่ทำร้ายธรรมชาติ

วันนี้มาถึง การเปิดตัว กาแฟดริปพันธุ์ไทย ที่สานต่อความตั้งใจในการดูแลผลผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จาก 10 Coffee Master ที่มีจุดร่วมเดียวกันคือการสร้างคุณค่าให้กับผืนป่า

เป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการปลูก การคัดสรร การผลิตอย่างละเมียดละไม พิถีพิถัน จนได้รสชาติ และกลิ่นหอมที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมส่งต่อพลังการขับเคลื่อนผ่านดริปทุกหยดของกาแฟ สู่มรดกแห่งความยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลังจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.  พีทีจี เอ็นเนอยี เผยถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมว่า “PTG มุ่งมั่นถ่ายทอดแนวคิด ‘ให้คิดเรื่องกาแฟเป็นเรื่องสุดท้าย ให้คิดเรื่องป่าเป็นเรื่องแรก’ โดยมีภารกิจในการส่งเสริมศักยภาพของเกษตรกร ด้วยแนวทางการปลูกกาแฟควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้

ซึ่งในปี 2566 PTG ร่วมมือกับ กรีโนเวท ส่งเสริมเกษตรกรในตำบลปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ผ่าน “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิกาบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน” ซึ่งเน้นการปลูกกาแฟที่กลมกลืนกับระบบนิเวศป่าไม้ พร้อมพัฒนาพื้นเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นพื้นที่ป่ากาแฟที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ป่าไม้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้การเกษตรและการอนุรักษ์ดำเนินควบคู่กันไปได้ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน

มีเกษตรกรเข้าร่วม 24 ราย ปลูกกาแฟ 68,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ปัจจุบันมีการส่งเสริมการปลูกกาแฟไปแล้ว 1,400 ไร่ รวม 420,000 ต้น โดยมีเกษตรกรกว่า 400 รายเข้าร่วม โดยมีเป้าหมายคือการรับซื้อกาแฟสารให้ได้ 8,000 ตัน จากพื้นที่กว่า  55,000 ไร่ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 10,000 ครัวเรือน ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้”

ล่าสุด PTG ยังดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกับ 3 หน่วยงานในการพัฒนาพื้นที่ป่า และส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในด้านการส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ร่วมมือกับ กรมป่าไม้ ในการจัดหาพื้นที่ปลูกกาแฟ ไม่น้อยกว่า 50,000 ไร่ ต่อเนื่อง 3 ปี และ

ร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ด้านการสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับเกษตรกร โดยกาแฟอาราบิก้าจากความร่วมมือดังกล่าว จะถูกส่งตรงไปยังร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยรับซื้อผลผลิตตามคุณภาพ ปริมาณ และราคาอย่างเป็นธรรม ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมให้สมดุลและยั่งยืน”คุณพิทักษ์ กล่าวเสริม

ด้าน นางสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า  “PTG คือต้นน้ำ ในการวางรากฐานของการอนุรักษ์ฟื้นฟูผืนป่าให้สมบูรณ์ และส่งเสริมการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ กาแฟพันธุ์ไทย คือปลายน้ำในการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร

ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ โดยไม่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานในเมืองใหญ่ สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน”

“สำหรับ กาแฟดริปพันธุ์ไทย คอลเลคชันนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย’ ที่มีจุดร่วมเดียวกันคือ การสร้างคุณค่าให้กับผืนป่า ที่ผ่านกระบวนการบ่มเพาะทุกเมล็ดพันธุ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างละเมียดละไม โดยความพิเศษในครั้งนี้ เรามี Coffee Master หญิงอย่างคุณโสภา มาเติมเต็มการสร้างสรรค์รสชาติที่พิเศษยิ่งขึ้น

โดยคอลเลคชันนี้ได้เน้น Process กระบวนการผลิตที่แตกต่างกันของเกษตรกรแต่ละท่าน มาเป็นกิมมิคในการนำเสนอความพิเศษของกาแฟแต่ละแหล่ง นอกจากนั้นแต่ละท่านก็มีกระบวนการที่แตกต่างกัน ยิ่งทำให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร เช่น Washed Process ที่ให้รสชาติที่สะอาด สดชื่นแบบ Acidity

รวมถึงมีความหวาน ชุ่มคอ ดื่มง่าย แบบ Natural Process  มีบอดี้สูง รสเข้มข้น Acidity มีความหวาน มีกลิ่นผลไม้ที่ชัดเจน และแบบ Honey Process ที่ให้ความหวานหอมแบบผลไม้สุกแห้ง หวานชุ่มคอคล้ายน้ำผึ้ง”

นอกจากนี้ พันธุ์ไทยยังได้ร่วมงานกับ คุณโบ้ม – วิศัลย์ศยา ลอยไสว หรือรู้จักกันในนาม Linghokkalom ศิลปินคนรุ่นใหม่ที่มาถ่ายทอดผลงานในคอนเซ็ปต์ Dripple Effect ได้อย่างลงตัว “รู้สึกดีใจและขอบคุณที่กาแฟพันธุ์ไทยเชิญมาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ เป็นงานที่สนุกมาก ภูมิใจที่ผลงานของเราจะถูกนำไปแสดงทั่วประเทศ

โดยแรงบันดาลใจในการคิดงานมาจากคาแรคเตอร์ของ Coffee Master ทั้ง 10 ท่าน ที่มีเอกลักษณ์และวิธีการปลูกกาแฟที่น่าสนใจ เราจึงใช้รสชาติและเทสโน้ตประกอบกับวิถีชีวิตของพวกเขาในการกำหนดโทนสี และเล่าเรื่องราวผ่านภาพ เพื่อให้กาแฟทั้ง 10 มีความโดดเด่นร่วมกัน

จากโจทย์คือ “ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ” จึงนำเสนอในรูปแบบ Dripple Effect ที่สื่อสารให้เห็นว่ากาแฟทุกหยดส่งต่อพลังความยั่งยืนจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างแรงกระเพื่อมให้ชีวิตมากมาย ฟื้นฟูธรรมชาติและสร้างพื้นที่ป่า เป็นกาแฟรักษ์โลกสำหรับคนรุ่นใหม่จากนักทำกาแฟไทย เพื่อคอกาแฟทุกคน”

เพราะทุกครั้งที่ดริป…เปรียบเสมือนการสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ ผ่าน 10 นักสร้างสรรค์กาแฟ ผู้ยกระดับกาแฟไทยให้เต็มไปด้วยความหมาย โดยการบ่มเพาะทุกเมล็ดและการดริปทุกหยด เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้าง จากวิถีชีวิตชุมชนที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับผู้คน และสิ่งมีชีวิตทุกชนิด พร้อมเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ นำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงและชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” อย่างยั่งยืนไม่รู้จบ

  1. กาแฟที่เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติ: วัลลภ ปัสนานนท์
  2. กาแฟออร์แกนิกท่ามกลางป่าสน: แสนชัย จูเปาะ
  3. กาแฟป่าต้นน้ำ: เปา เลอตอโกล
  4. กาแฟที่งอกงามด้วยศรัทธาและการให้: เคเลบ จอร์แดน
  5. กาแฟ GI กาแฟเทพเสด็จ บ้านแม่ตอนหลวง: เอก สุวรรณโณ
  6. กาแฟในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง: โสภา ดอยอมก๋อย
  7. กาแฟออร์แกนิกจากยีสต์: แดง ดูลาเปอร์
  8. กาแฟจากป่ายอดดอยสูง: ชาติชาย คะบู่
  9. กาแฟพื้นถิ่นที่คงความเป็นเอกลักษณ์: อัคคเดช เปียวเชกู่
  10. กาแฟต้นน้ำป่าน่าน: วิชัย กำเนิดมงคล

เทศกาลปีใหม่นี้ พันธุ์ไทยขอมอบของขวัญที่เต็มไปด้วยความหมาย อิ่มเอมใจทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย “กาแฟดริปพันธุ์ไทย” จากแรงบันดาลใจในความรักถิ่นฐานบ้านเกิด และความผูกพันกับธรรมชาติของ 10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย ที่ตั้งใจส่งมอบเอกลักษณ์กาแฟไทยทั้ง 10 รสชาติ พร้อมกลิ่นหอมละมุน ดื่มด่ำความอบอุ่นในทุกแก้ว กับแพ็คเกจจิ้งดีไซน์สวยในคอนเซปป์ Dripple Effect ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ มี 2 แบบให้สะสม หรือมอบเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก

  • กล่องเล็ก – บรรจุกาแฟดริป 10 ซอง 10 รสชาติ ราคา 395 บาท
  • กล่องใหญ่ – บรรจุกาแฟดริป 20 ซอง 10 รสชาติ พร้อมแก้วกาแฟเซรามิก 1 ใบ ราคา 1,290 บาท

พร้อมจำหน่ายแล้วที่ร้านพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศที่ร่วมรายการ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shopee.co.th/punthaicoffee_officialshop กล่องเล็ก https://th.shp.ee/fzN1eCH และ กล่องใหญ่ https://th.shp.ee/nMM8TkS ยกเว้นบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน

พิเศษ! ซื้อกาแฟดริปพันธุ์ไทยกล่องเล็ก 2 กล่อง ราคาเพียง 750 บาท (จากปกติ 790 บาท) ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 –  31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/punthaicoffee