Onlinenewstime.com : เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีในภาคเหนือ และภาคใต้
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีในภาคเหนือ และภาคใต้” โดยมีรายละเอียดดังนี้
เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น
โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 11.0 9.8 และ 7.5 ต่อปี ตามลำดับ
อีกทั้ง รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 29.4 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงาน ที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวร้อยละ 295.7 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตน้ำดื่มและทำภาชนะบรรจุจากพลาสติก ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสำคัญ
เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -21.0 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม
สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 93.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.0 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 23.2 และ 55.1 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 18.8 13.8 และ 17.7 ต่อปี ตามลำดับ
อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.5 ขณะที่รายได้เกษตรกรชะลอตัว เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ร้อยละ -12.3 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 23.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -3.7 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
สำหรับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวร้อยละ 26.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานแปรรูปไม้และผลิตชิ้นไม้สับ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม
สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 88.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 86.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 109.9 และ 119.5 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 6.9 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -0.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 5.6 และ 14.2 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -9.9 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 58.8 เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.1 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -34.0 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -2.0 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 20.9เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ส่วนเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 98.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว ร้อยละ 24.7 และ 34.2 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 1.6 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -16.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล
เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 17.7 และ 9.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -0.4 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -27.3 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
อย่างไรก็ตามจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.6 ลดลง
จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.0 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้
จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 32.2 และ 26.6 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ขณะที่การลงทุนชะลอตัว อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจาก จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 4.5 และ 23.4 ต่อปี ตามลำดับ
ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ชะลอตัวร้อยละ -7.0 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
เช่นเดียวกับรายได้เกษตรกรชะลอตัวร้อยละ -15.5 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 58.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.8 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวร้อยละ -15.1 และ -9.6 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวร้อยละ 33.6 และ 9.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ
ส่วนเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 91.8 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว ร้อยละ 78.8 และ 146.9 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว ขณะที่การลงทุนชะลอตัว อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 2.5 และ 16.5 ต่อปี ตามลำดับ
ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรชะลอตัวร้อยละ -1.7 และ-3.6 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.4 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน
สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 4.0 ต่อปี ขณะที่ จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม
สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.0 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 66.7 และ 172.4 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคกลาง ในเดือนพฤษภาคม 2566
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 16.1 และ 6.9 ต่อปี ตามลำดับ
ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน
สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวร้อยละ -28.5 และ -3.0 ต่อปี ตามลำดับ
ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวร้อยละ 972.3 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานฉีดพลาสติกผลิตโลโก้รถยนต์ ในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม
สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.0 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว ร้อยละ 13.4 และ 24.3 ต่อปี ตามลำดับ