fbpx
News update

Satang Pro ลุยตลาดนักลงทุนต่างชาติ เจาะกลุ่มสมาชิก Elite Card รับชำระด้วยเงินคริปโท

Onlinenewstime.com : นายสรัล ศิริพันธ์โนน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดคริปโทมีความเชื่อมั่นที่สูงมาก ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่าจากปีที่แล้วอยู่ที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ซึ่งความร่วมมือนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่มีการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี่ และเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ได้แก่สมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลีท คาร์ด ได้มีทางเลือก และความสะดวกในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

ตรงนี้เป็น Use Case ที่ชัดเจนของการ disrupt ของเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทำให้เกิด Capital Inflow หรือการเคลื่อนย้ายของทุน ที่จะส่งผลดีกับทั้งธุรกิจของสตางค์ และภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (Wellness & Medical Tourism) อสังหาริมทรัพย์ และภาคการลงทุนอื่น ๆ

“ซึ่งสมาชิกบัตร สามารถชำระเงินลงทุนผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลคริปโทในหลายสกุลของ Satang Pro โดยเราต้องการนำเสนอแพลตฟอร์ม และองค์กรที่เชื่อถือได้สำหรับการลงทุนในประเทศไทยให้กับต่างชาติ ซึ่งจุดแข็งของเราคือการพัฒนาระบบให้มีความเสถียร รวดเร็ว

ตลอดจนรักษามาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล และสินทรัพย์ของลูกค้า รวมถึงเรามีฟีเจอร์ Multiple Network ให้ค่าโอนถูกลง และโอนเหรียญได้ไวมากขึ้น ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามแพลตฟอร์ม” สรัล กล่าว

สำหรับปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเจริญเติบโต ของอุตสาหรรมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจไทยนั้น นายสรัลให้ความคิดเห็นว่า มี 3 ปัจจัยหลัก ๆ คือ Regulations กฎระเบียบต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมระบบนิเวศของอุตสาหกรรม  Global Connection Glue การมีตัวเชื่อมโยงในระดับโลก และ CBDC สกุลเงิน ในรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง

“การมีตัวเชื่อมโยงในระดับโลกเป็น Global platform adoption เช่น กรณีของ Paypal Visa และ Mastercard ทำให้ Digital Asset หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล มีช่องทางการเข้าถึงที่แพร่หลายสู่ผู้ใช้มากขึ้นทั่วโลก ขณะเดียวกันในประเทศก็มีธนาคาร สถาบันการเงินใหญ่ ๆ ให้การยอมรับ และมีการลงทุนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ 

นั่นหมายถึงว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล นั้นได้เปลี่ยนภาพจากสินทรัพย์ทางเลือกที่คลุมเครือเมื่อ 3-5 ปีก่อน มาเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีอยู่ในพอร์ตการลงทุน ซึ่งไม่ใช่แค่พอร์ตของนักลงทุนรายย่อย แต่ยังรวมถึงนักลงทุนสถาบันด้วย

แน่นอนว่าสินทรัพย์ดิจิทัล จะเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในอนาคตของประเทศไทย และก็จะมีผลกับการปฏิรูปหรือปรับปรุงภาพรวมของด้านอื่น ๆ ด้วยเช่น การจ้างงานในประเทศ งานที่ใช้ทักษะ ความรู้ ความเข้าใจสูง การผลิตบุคคลากรในระบบการศึกษาเพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ก็จะมากขึ้น”

นายสรัล สรุปว่า สินทรัพย์ ดิจิทัลนั้น เรียกได้ว่าเป็นการ disrupt การระดมทุนในระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ทําให้ประชาชนสามารถ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น รวมทั้งภาคเอกชนเองก็สามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้นด้วย ความตื่นตัว ในการลงทุนที่กลายเป็นกระแสท่ามกลางคนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่คนที่อายุน้อยไปจนถึงคนที่อายุมากขึ้นในขณะนี้

ทำให้เกิดนักลงทุนและนักเก็งกำไรมือใหม่ และด้วยความที่สินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใหม่มาก ๆ เราควรจะต้องตื่นตัวศึกษาหาความรู้กันมากขึ้น ตรงนี้สตางค์เองก็มุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือและผู้ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนในการเติบโตในตลาดนี้”

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ”