Onlinenewstime.com : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สนามมวยเวทีราชดำเนิน จัดศึกมวยไทยนานาชาติรอบชิงแชมป์ “AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN” ซึ่งได้คัดเลือกผู้ชนะมาจาก 2 ประเทศ 3 เมือง ได้แก่ เมืองเตรนชีน สาธารณรัฐสโลวัก เมืองโยโกสุกะและเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น
ก่อนจะปิดท้ายที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน ประเทศไทย เพื่อเฟ้นหานักชกดาวรุ่งจากนานาชาติ และเปิดโอกาสให้นักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลกมีโอกาสได้มาแข่งขันในเวทีอันทรงเกียรติที่เป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬามวยไทย
โอกาสนี้ นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานบริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด และกรรมการบริหารของเวทีมวยราชดำเนิน ให้เกียรติร่วมงานฯ
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท. มุ่งส่งมอบคุณค่าและความหมายของการท่องเที่ยวไทย (Meaningful Travel) ผ่านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ควบคู่ 5F ซึ่งหนึ่งใน Soft Power
ที่สำคัญ คือ F-Fight ศิลปะการต่อสู้ “มวยไทย” มรดกแห่งศิลปวัฒนธรรมการต่อสู้ของไทยที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และสามารถสร้างการรับรู้และเป็นกระแสนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ททท. จึงได้ริเริ่มจัดการแข่งขันมวยไทยนานาชาติ “AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN”ภายใต้
ความร่วมมือกับ สนามมวยเวทีราชดำเนิน ซึ่งเปรียบได้กับ “บ้านของมวยไทย” และเป็นสนามมวยที่มีความเก่าแก่มากที่สุดของโลก
โดยเฟ้นหานักมวยไทยนานาชาติดาวรุ่งฝีมือดี จากการจัดแข่งขันใน 3 เวที 2 ประเทศ ได้แก่ เมืองเตรนชีน สาธารณรัฐสโลวัก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 เมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 และเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 มาประลองหมัดรอบสุดท้ายกับสุดยอดนักมวยไทย
ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน ประเทศไทย ในวันที่ 22 ธันวาคม 2566
เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ การแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาตินี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัว นำสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและตอกย้ำการส่งเสริม Soft Power ไทยในเวทีโลก
กิจกรรม AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN ในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน มีรายละเอียดและรายชื่อนักมวยไทยเข้าร่วมแข่งขัน 4 คู่ ดังนี้
1. นักมวยไทยหญิง MONIKA CHOCHLIKOVA (โมนิก้า โชชิลโควา) แชมป์ Muaythai World Championship ผู้ชนะจากเวทีชกที่เมืองเตรนชีน สาธารณรัฐสโลวัก พบกับ เงาพระจันทร์ ลูกทรายกองดิน
รองแชมป์ RWS รุ่นแบนตั้มเวต 2023 โดยเป็นการชกกติกามวยไทย 5 ยก รุ่นแบนตั้มเวต
2. นักมวยไทยชาย ASAHI P.K.SAENCHAI (อาซาฮี พี.เค. แสนชัย) แชมป์โลกมวยไทยของ WBC ผู้ชนะจากเวทีชกที่จัดขึ้นที่เมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น พบ ซุปเปอร์แมน บัญชาเมฆ (Superman Banchamek) เจ้าของเหรียญทองกีฬาคิกบ็อกซิ่งซีเกมส์ ครั้งที่ 31โดยจะเป็นกติกาการชกมวยไทย 5 ยก รุ่นเฟเธอร์เวต
3. นักมวยไทยชาย RAMU ARAYA (รามุ อะรายะ) แชมป์ WMC และแชมป์ NJKF ชนะจากเวทีชกที่จัดขึ้นที่เมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น พบกับ เพชรดำ ช.โค้วยู่ฮะอีซูซุ แชมป์เวทีบางลา สนามมวยบางลาป่าตอง
ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของ จ.ภูเก็ต
4. นักมวยไทยหญิง SAYA ITO (ซายะ อิโตะ) แชมป์มินิฟลายเวต WBC และ WMC และแชมป์สหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก (WPMF) 3 สมัย ผู้ชนะจากเวทีชกที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น พบกับ เพชรปลายฝน ศิษย์มิ้งค์ แชมป์มวยหญิงภาคกลาง ดาวรุ่ง
นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส และกรรมการบริหารของเวทีมวยราชดำเนิน กล่าวว่า ในฐานะกรรมการบริหารเวทีมวยราชดำเนิน รู้สึกภูมิใจ อย่างมากที่ ททท. ให้เกียรติเลือกเวทีมวยราชดำเนินเป็นสถานที่จัดงาน Amazing Muaythai, Road To Rajadamnern ในรอบไฟนอล อีเวนต์
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทยและเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกีฬา และเศรษฐกิจของประเทศ สนามมวยราชดำเนินของเราจึงได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักมวยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมชมและเชียร์ในศึกครั้งนี้อย่างเต็มที่
รวมทั้งตัวแทนนักมวยไทยที่จะขึ้นแข่งขันก็ผ่านการคัดสรรว่าเป็นสุดยอดนักชกฝีมือดี ทำให้เชื่อมั่นว่าการแข่งขันครั้งนี้จะส่งมอบประสบการณ์อันเปี่ยมด้วยคุณค่า ความหมาย และตราตรึงใจผู้ชมทุกคนอย่างแน่นอน และที่สำคัญการแข่งขันครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้แฟนมวยและผู้ที่สนใจเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 20.00-22.30 น. อีกด้วย
ทั้งนี้ รายการ AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN ใน 3 สนามก่อนหน้านี้ได้สร้างปรากฏการณ์ความสนใจมวยไทยในกลุ่มชาวต่างชาติ บัตรเข้าชมขายหมดทุกที่นั่ง มีผู้ชมเข้ารวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ประกอบด้วย สาธารณรัฐสโลวัก จำนวน 2,000 คน เมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1,000 คน เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1,200 คน และประเทศไทย จำนวน 1,000 คน
ซึ่งนักมวยตัวแทนทั้ง 4 คนที่ผ่านเข้ามา ล้วนแล้วแต่เป็นยอดมวยสุดแกร่งที่มีชื่อเสียงคร่ำหวอดในวงการมวยไทย ทำให้สามารถปลุกเร้ากระแสมวยไทยในตลาดต่างประเทศให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ตอกย้ำความนิยมของกีฬามวยไทยและชื่อเสียงของเวทีมวยราชดำเนินที่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่ชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ