Onlinenewstime.com : “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนสิงหาคม 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ใน 6 เดือนข้างหน้าที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการเป็นสำคัญ”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนสิงหาคม 2566 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนสิงหาคม 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการเป็นสำคัญ” โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 80.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการ อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคการลงทุน เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในพื้นที่
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พบว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 85.8 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคเกษตรเป็นสำคัญ
ตามมาด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคใต้อยู่ที่ระดับ 77.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคบริการ
เนื่องจากมีการยกระดับท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชขึ้นเป็นท่าอากาศนานาชาติ เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน อันเป็นผลมาจากผู้ประกอบการมีแนวโน้มขยายกิจการเพื่อรองรับการเติบโตในภาคบริการ
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 77.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคบริการ เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในหลายจังหวัดของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคเกษตรในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากคาดว่าราคาผลผลิตทางการเกษตรจะปรับตัวขึ้น ประกอบกับการมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ
ความเชื่อมั่นอนาคตของภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 73.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากภาคบริการ อันเป็นผลมาจากการดำเนินกิจกรรมสนับสนุนของภาครัฐ และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดการณ์อุปสงค์ในสินค้าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 72.3 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคบริการ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคการจ้างงาน
อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ เกษตรกรในพื้นที่ยังมีความกังวลต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนซึ่งอาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตในอนาคต
และความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 70.4 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจากภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรแปรรูปในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคบริการ
อันเป็นผลมาจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้น ที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสอากาศหนาว อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางส่วนยังกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในอนาคต จึงชะลอแผนการขยายธุรกิจ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ระดับ 69.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากมีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในฐานะเมืองรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากความพยายามของภาครัฐในการเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยังกังวลต่อความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในอนาคต
ตารางสรุปดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนสิงหาคม 2566