Onlinenewstime.com : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเจรจาธุรกิจการบินพาณิชย์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ The Routes Asia Development Forum 2020 (RA2020) ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2563
เปิดพื้นที่สำคัญหลายแห่ง ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากธุรกิจการบินจากทั่วโลก โชว์ศักยภาพความพร้อมในการรองรับผู้เข้าประชุม ต่อยอดอุตสาหกรรมการบินให้เติบโต ผ่านการเจรจาธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นที่สุดด้านการบินแห่งเอเชีย คาดสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศไทยในภาพรวม
นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำคัญ และถือเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเจรจาธุรกิจการบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ The Routes Asia Development Forum 2020 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งมีความพร้อมในแง่ของความสง่างาม หรูหรา และความเหมาะสมในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน ทำให้คนทั่วโลก ได้รู้จักจังหวัดเชียงใหม่มากยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพของเมืองและของประเทศไทย
“เชียงใหม่ในฐานะ 1 ใน 5 หัวเมืองไมซ์หลัก หรือ MICE City มีความพร้อมในการจัดประชุมนานาชาติทั้งด้านสถานที่จัดงาน โรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของนักเดินทางธุรกิจ ซึ่งเชียงใหม่มีสถานประกอบการผ่านการรับรองมาตรฐาน Thailand MICE Venue Standard ในประเภทห้องประชุมและประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้าจำนวนถึง 16 แห่ง รวม 56 ห้อง
มีความพร้อมในด้านบุคลากรที่มีความสามารถ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ตลอดจนความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ พบว่า นับตั้งแต่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เปิดตัวขึ้นในปี 2556 มีจำนวนงานประชุมนานาชาติที่จัดในเชียงใหม่และเป็นงานที่ International Congress and Convention Association (ICCA) ให้การรับรองมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 250
จากจำนวนงาน 10 งานในปี 2556 เพิ่มเป็น 21 งานในปี 2560 และ 25 งานในปี 2561 โดยในปี 2561 นั้น เชียงใหม่ ถือเป็นเมืองที่จัดงานประชุมนานาชาติมาก เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองที่จัดงานประชุมนานาชาติ มากเป็นอันดับที่ 7 ของอาเซียน”
นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ยังพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการรักษาความปลอดภัยและจราจรในพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดงาน การส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์การจัดงาน ให้คนในพื้นที่รับรู้และภาคภูมิใจผ่านความร่วมมือของหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ บนเส้นทางการเดินรถจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ สู่โรงแรมที่พักของผู้เข้าร่วมประชุม และสถานที่จัดงาน
ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ อุทยานราชพฤกษ์ สำหรับการจัดกิจกรรม Networking Evening, โรงแรมดาราเทวี ซึ่งเป็นสถานที่จัด Welcome Reception, สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ และสมาคมไทยล้านนาสปา ที่พร้อมให้บริการและรองรับผู้เข้าร่วมประชุมอย่างเต็มที่ และสร้างความประทับใจในฐานะเจ้าภาพ
นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงาน The Routes Asia Development Forum 2020 ถือเป็นอีกครั้งในรอบ 14 ปีของประเทศไทย ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน นับจากครั้งแรกที่เคยจัดขึ้นที่พัทยาในปี 2006 นับว่าเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย ที่ได้ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมงานจากธุรกิจการบินทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของท่าอากาศยาน ก้าวหน้าของเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทางอากาศ รวมทั้งความพร้อมและคุณภาพของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมโรงแรมและการบริการอีกด้วย
ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในด้านความสะดวกในการเดินทางทางอากาศมายังประเทศไทย (Good Air Accessibility) เป็นเหตุผลให้บริษัท Informa PLC. ซึ่งเป็นผู้จัดงาน The Routes Asia Development Forum พิจารณาคัดเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดการในปีนี้
โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งภายใต้การบริหารของ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่ ทอท.ได้กำหนดยุทธศาสตร์ ให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักที่เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 45 ล้านคนต่อปี ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นท่าอากาศยานที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก มีบทบาทสำคัญในการรองรับสายการบินต้นทุนต่ำ
และท่าอากาศยานอีก 4 แห่ง มียุทธศาสตร์ ในการเป็นประตูสู่ภาคเหนือและภาคใต้ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่สำคัญ เพื่อพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน โดยมุ่งเน้นในด้านการบริการและความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากล และด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้บริการสายการบินประจำกว่า 135 สายการบิน เชื่อมต่อการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้กว่า 214 จุดทั่วโลก รวมไปถึงสถานที่จัดงานอย่างจังหวัดเชียงใหม่ก็มีความเหมาะสมและน่าสนใจ (Appropriate and Interesting Event Venue) และมีโรงแรมที่พัก (Hotels) ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
“ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และไทยแลนด์ 4.0 นั้น อุตสาหกรรมการบิน เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม New S-Curve ที่รัฐบาลให้การส่งเสริม ดังนั้น การจัดประชุม RA2020 จะก่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรม การบิน สร้างเครือข่ายเส้นทางการบิน สร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน สร้างเส้นทางการบินเส้นทางใหม่ นำไปสู่การขยายตัวทางด้านท่องเที่ยว และสร้างงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน
ตลอดจนยังเป็นโอกาสอันดี ในการสร้างเครือข่ายของกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ถือเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าระหว่างการจัดงาน จะก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และยังเป็นโอกาสสำคัญ สำหรับประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นที่สุดด้านการบินแห่งเอเชีย”
สำหรับการประชุมตั้งแต่วันที่ 8-10 มีนาคม 2563 จะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 800 คน มีสายการบินเข้าร่วมประมาณ 100 สายการบิน ท่าอากาศยานทั่วโลกกว่า 200 แห่ง หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวกว่า 30 หน่วยงาน และมีผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ที่จะร่วมบรรยายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กว่า 20 คน
ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Face-to-face meetings ที่ผู้เข้าร่วมประชุมจะมีส่วนร่วมในการประชุมแบบตัวต่อตัวกว่า 2,000 ครั้งตลอดสามวันเต็ม เพื่อแลกเปลี่ยนบริการ และความต้องการที่กำลังมองหาอยู่
Networking events กิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสานสัมพันธ์อันดีของผู้เข้าร่วมงาน และ Conference การประชุมโดยมีผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านธุรกิจการบินในหลากหลายประเภทอาทิ สายการบิน ท่าอากาศยาน จุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เครื่องจักรเกี่ยวกับการบิน และอื่นๆ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใต้ประเด็นที่น่าสนใจในปัจจุบันและอนาคต
สามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดประชุม The Routes Asia Development Forum 2020 ได้ทาง ลิงค์