fbpx
News update

TOA โชว์สถิติใหม่ Q2/64 ยอดขายพุ่งต่อเนื่อง รุกธุรกิจฝ่าโควิด-19

Onlinenewstime.com : บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำสีทาอาคารและวัสดุก่อสร้างครบวงจร ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก ปี 2564 เติบโตต่อเนื่อง ด้วยการรุกตลาดวัสดุก่อสร้างช่วยเสริมการเติบโต และแรงสนับสนุนจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มียอดขาย 4,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 12% (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) ในขณะที่ยอดขายสำหรับงวดครึ่งปีแรก เป็นเงิน 8,918 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 10% จากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ทั้งจากสีทาอาคาร เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และยิปซั่มบอร์ด   

แม้ว่าราคาวัตถุดิบ จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นตั้นของบริษัทฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ด้วยความสามารถควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรก เป็นเงิน 1,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ส่วนกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/2564 เป็นเงิน 544 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 8% ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ทยอยปรับราคาขายสินค้า ให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น คาดว่ากำไรขั้นต้น จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 3 ภายหลังการปรับราคาแล้วเสร็จ

ในขณะที่บริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้นสำหรับงวดครึ่งปีแรก 0.60 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากงวดครึ่งแรกของปีก่อน ซึ่งมีกำไรต่อหุ้น 0.50 บาท/หุ้น และได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก จำนวน 0.31 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.04 บาท/หุ้น คิดเป็น 15% จากงวดเดียวกันปีก่อน

จากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดและติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการคุมเข้ม ลดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ปิดแคมป์ก่อสร้าง งดการเคลื่อนย้ายแรงงาน งดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด ส่งผลกระทบต่อยอดขายโครงการก่อสร้าง ในช่วงปลายไตรมาส 2 รวมถึงการยกระดับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ทำให้ร้านโมเดิร์นเทรดบางสาขาต้องปิดการขาย

ส่วนร้านค้าสีและร้านโมเดิร์นเทรดที่ยังเปิดดำเนินการอยู่ ต้องถูกลดชั่วโมงการขายลง อย่างไรก็ตามคาดว่าสภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเร่งฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชน ซึ่งจะเป็นกลไกหลักที่ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมั่นคงต่อไป

จากการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ TOA สวนกระแสวิกฤตโควิด-19 มาจากการปรับตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือความท้าทายต่างๆ ผนวกกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนให้เกิดประสิทธิภาพทางธุรกิจ  

ตลอดจนการเสริมกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์วิถีการดำเนินชีวิตใหม่ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 

นอกจากนี้ TOA ยังให้ความสำคัญ ในการดูแลปกป้องพนักงานท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19  ด้วยมาตรการที่หลากหลาย อาทิ การณรงค์ส่งเสริมการฉีดวัคซีนและจัดหาวัคซีนให้แก่พนักงานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การยกระดับความเข้มข้มตามมาตรการ “Bubble & Seal” สำหรับพนักงานสายงานการผลิต เพื่อสกัดโควิด-19 ไม่ให้กระทบสายการผลิตของบริษัทฯ รวมถึงการติดตามสถานการณ์ และผลกระทบของคู่ค้าอย่างใกล้ชิด  ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชน สังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าช่วยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปพร้อมกับคนไทยทุกคน

นายจตุภัทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า  ”ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการปรับตัวอย่างรวดเร็ว จะทำให้ TOA สามารถก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ ที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี จนนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว”