Onlinenewstime.com : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขแนะ ลูกหลาน ผู้ดูแล ผู้สูงอายุในครอบครัวให้มีสุขภาพแข็งแรง ด้วยการจัดอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันลดลงตามวัย และหากมีการติดเชื้อจะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด โรคมะเร็ง
จึงต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม กินผักและผลไม้เป็นประจำ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
โดยใน 1 วัน ผู้สูงอายุควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย เน้นกินอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ นม อาหารทะเล ถั่วต่าง ๆ เห็ด ผักผลไม้หลากหลายสี ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ”
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การจัดอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ขอให้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นสำคัญ คือ
1) อาหารควรมีความอ่อนนุ่ม เคี้ยวกลืนได้ง่าย โดยนำผัก เนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และต้มหรือตุ๋นให้เปื่อย เพื่อให้สะดวกต่อการเคี้ยว และกินได้ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น
2) แบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายมื้อ เพิ่มการจัดอาหารว่างในระหว่างวัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารอย่างเพียงพอมากขึ้น
3) รสชาติของอาหาร ไม่รสจัดมาก อาจใช้เครื่องเทศ สมุนไพรเพิ่มกลิ่นและรสชาติ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร
4) เน้นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนเสมอ การจัดอาหารให้ในขณะที่ยังร้อน จะทำให้อาหารมีความน่ากิน และมีรสชาติดีกว่าอาหารที่เย็นชืด
5) เลือกดื่มนมรสจืด นมพร่องมันเนยวันละ 1-2 แก้ว หากผู้สูงอายุที่ดื่มนมไม่ได้ อาจจัดเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลือง ที่มีการเสริมแคลเซียมได้ หรือเพิ่มอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมอื่น ๆ ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้แข็ง ผักใบเขียวเข้ม เช่น ใบขี้เหล็ก ตำลึง คะน้า ขึ้นฉ่าย กวางตุ้ง เป็นต้น
“สำหรับผู้สูงอายุที่ติดเตียง โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับเส้นประสาท เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต อัลไซเมอร์ หรือพาร์กินสัน อาจพบปัญหาการกลืนลำบาก จะทำให้สำลักง่าย หรือไอขณะกินอาหาร อาจทำให้อาหารลงไปในหลอดลม มีโอกาสทำให้ปอดติดเชื้อหรือเป็นปอดบวมได้
ควรจัดให้อยู่ในท่านั่งหรือท่านอนศีรษะสูง โดยผู้ดูแลควรปรับเตียง 45-90 องศา ก่อนเริ่มกินอาหาร เพื่อป้องกันการสำลัก นอกจากจะกินอาหาร เพื่อให้ได้รับสารอาหารในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายแล้ว ระหว่างที่มีการระบาดโรคโควิด-19 ผู้สูงอายุ และผู้ดูแลควรอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุด
ผู้ดูแลที่ยังต้องออกไปนอกบ้านด้วยเหตุผลความจำเป็นต่าง ๆ ไม่ควรเข้าไปคลุกคลีกับผู้สูงอายุ รักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร และควรใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งที่เข้าไปพูดคุยกับผู้สูงอายุ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้สูงอายุได้”อธิบดีกรมอนามัย กล่าว