ความร่วมมือครั้งนี้ ของธนาคารกสิกรไทย และ แกร็บ ผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์-ทู-ออฟไลน์ (O2O) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือผลักดันให้เกิด ‘ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ อีโคซิสเต็ม’ (Digital Lifestyle Ecosystem) นับว่าเป็นการใช้ศักยภาพความเป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง ของธนาคารกสิกรไทย ในการพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ ของการใช้บริการแกร็บโดยเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้บริการทั้งระบบ ได้แก่ ลูกค้าที่ใช้บริการ, ผู้ขับขี่, ร้านค้า และตัวแทนของแกร็บ ประกอบด้วย บริการทางการเงินแกร็บเพย์ บาย เคแบงก์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้า
อีกทั้งเพื่อขยายการให้บริการทางการเงินอื่นๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ยังได้ร่วมลงทุนในแกร็บเป็นมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “แกร็บมีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำนวัตกรรมมาช่วยยกระดับประเทศไทยไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟนที่เกิดจากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้คนไทยเข้าถึงระบบการชำระเงินระบบดิจิทัลที่สะดวกและปลอดภัยได้มากขึ้น สิ่งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะทำให้แกร็บ เป็นซูเปอร์แอพสำหรับทุกวัน (Everyday Super App) ที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละวันของลูกค้าให้ดีที่สุด
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในระดับภูมิภาคของธนาคารกสิกรไทย คือ มุ่งขยายธุรกิจไปยังตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน +3 ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสนำศักยภาพดิจิทัล เทคโนโลยีมาใช้ผ่านช่องทางดิจิทัลและบริการต่างๆ บนสมาร์ทโฟน โดยธนาคารได้วาง กลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในแต่ละธุรกิจ ด้วยคอนเซปต์ “Better Together” ด้วยการผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่าย เพื่อร่วมกันนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุกๆวัน
ความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และแกร็บ ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมและภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารยินดีที่ได้ร่วมทำงานกับแกร็บในการปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าทั้งวงจรของการให้บริการไปสู่ “ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ อีโคซิสเต็ม” (Digital Lifestyle Ecosystem) เต็มรูปแบบ ทั้งผู้ใช้บริการแกร็บ ผู้ขับรถ และร้านค้า รวมถึงการยกระดับระบบขนส่งและจัดส่งที่ปลอดภัย มีราคาที่เหมาะสม ให้กับผู้ใช้บริการแกร็บหลายล้านราย ตลอดจนผู้ใช้บริการรับส่งอาหารและพัสดุ ผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน และบริการทางการเงินต่างๆ ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายในการเป็นดิจิทัล แบงกิ้งที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค
ซึ่งการร่วมกันพัฒนากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟนและการลงทุนในแกร็บ จะทำให้ธนาคารสามารถนำศักยภาพของแกร็บมาทำให้เกิดประโยชน์กับร้านค้าและลูกค้าของธนาคารที่อยู่ในประเทศไทย โดยการลงทุนของธนาคารผ่านบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) ในครั้งนี้ถือเป็นการร่วมทุนครั้งแรกกับบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจหลักอยู่นอกประเทศไทย ซึ่งมีความสำคัญอยู่ที่ฐานจำนวนผู้ใช้ทั่วอาเซียนของแกร็บที่มีโอกาสเติบโตเทียบเท่ากับสถาบันการเงินชั้นนำ โดยธนาคารจะร่วมกันกับแกร็บในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะส่งเสริมศักยภาพของธนาคารให้ก้าวไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้
ในความร่วมมือดังกล่าว ครอบคลุมการพัฒนาแอปพลิเคชันการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน และบริการทางการเงินต่าง ๆ ร่วมกัน
1. แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์ (GrabPay by KBank) เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟน (Mobile Wallet) ที่จะทำให้ลูกค้าแกร็บชำระเงินค่าเดินทางและค่าบริการรับส่งของ ตลอดจนสามารถโอนเงินให้กับเพื่อนหรือครอบครัวใช้สำหรับซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ รวมทั้งใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดในร้านอาหารหรือร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นผลจากบริการพร้อมเพย์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Scheme) ทำให้ร้านค้าสามารถใช้บริการ “แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์” ได้ทันทีที่เปิดให้บริการ
2. การพัฒนาให้แอปพลิเคชันเคพลัสและแกร็บให้ใช้งานร่วมกันได้ ทำให้ลูกค้าใช้บริการตลอดวงจรการให้บริการของทั้งธนาคารกสิกรไทยและแกร็บได้อย่างราบรื่น
3. นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่อยู่ในวงจรการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยและแกร็บ โดยธนาคารกสิกรไทยและแกร็บ ร่วมกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าของตนเอง เช่น การเสนอสินเชื่อกสิกรไทยให้ผู้ขับรถแกร็บสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น การนำเสนอบริการ “แกร็บ ฟอร์ บิสซิเนส” (Grab for Business) ให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทย เพื่อช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางของบริษัท ตลอดจนการสื่อสารสร้างการรับรู้แบรนด์และเข้าถึงลูกค้าผ่านบริการโฆษณาของแกร็บ
นาย รูเบน ไหล ผู้อำนวยการจัดการอาวุโส แกร็บไฟแนนเชียล กล่าวว่า ในปีพ.ศ. 2561 แกร็บ ไฟแนนเชียล ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มฟินเทคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้ต่อเดือน (Monthly Active Users) และมูลค่าการใช้จ่ายรวม (Total Payments Volume) การร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้แกร็บ ไฟแนนเชียลเป็นแพลตฟอร์มแรกบนสมาร์ทโฟนที่ได้รับใบอนุญาตในการเปิดให้บริการระบบชำระเงินใน 6 ประเทศอาเซียน รวมถึงตอกย้ำความแข็งแกร่งในกลยุทธ์การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ จากการที่แกร็บเปิดแพลตฟอร์มนี้เอง ทำให้มีธุรกิจด้านการเงินชั้นนำจำนวนมากที่ต้องการร่วมมือกับแกร็บเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น