fbpx
News update

กิจกรรม ‘Life Balance smart Family’ สร้างครอบครัวคุณภาพ

Onlinenewstime.com : กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนโสด คนมีคู่ร่วมกิจกรรม “Life Balance smart Family” ชีวิตสมดุล ครอบครัวคุณภาพ ส่งเสริมให้คนโสด คนมีคู่ ร่วมกิจกรรมโสดมีตติ้ง และกิจกรรม FOR BABY เพื่อสร้างครอบครัวคุณภาพ เนื่องในเทศกาลวันวาเลนไทน์

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าว “Life Balance smart Family” ชีวิตสมดุล ครอบครัวคุณภาพ ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า รัฐบาลสนับสนุนและส่งเสริมการเกิดเพิ่มขึ้นด้วยความสมัครใจ เพื่อเพียงพอสำหรับทดแทนประชากร และการเกิดทุกรายมีการวางแผน มีความตั้งใจ และมีความพร้อมในทุกด้านนำไปสู่การคลอดที่ปลอดภัย ทารกแรกเกิดมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ

ตลอดระยะเวลา 3 ปี ในการดำเนินงาน พบว่า ปี 2563 จำนวนการเกิดของเด็กไทย ลดต่ำกว่า 600,000 คน เป็นครั้งแรก และมีแนวโน้ม จะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากการมีโอกาสทางการศึกษาสูงกว่าในอดีต การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรม มีค่านิยมอยู่เป็นโสด ทั้งการโสดแบบตั้งใจ และไม่ตั้งใจ แต่งงานช้า ความกังวลเรื่องคนช่วยเลี้ยงดูบุตร ความกังวลในความมั่นคงของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทำให้ชะลอการมีบุตร มีบุตรน้อยลง หรือไม่ต้องการมีบุตรเลย

และส่วนหนึ่ง ประสบกับปัญหาภาวะมีบุตรยาก นอกจากปัญหาจำนวนการเกิดแล้ว ประเทศไทยยังประสบปัญหาคุณภาพการเกิดและการเจริญเติบโต ปัญหามารดาตายสูงกว่าค่าเป้าหมาย มีเด็กพิการแต่กำเนิด ปีละประมาณ 30,000 คน มีอัตราการเกิดซิฟิลิสแต่กำเนิดเพิ่มสูงขึ้น เด็กแรกเกิดน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ การคลอดก่อนกำหนด ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการการเจริญเติบโต สติปัญญา และการเรียนรู้ของเด็ก

“ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบต่อนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 ฯ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2559 เพื่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการส่งเสริมการเกิด และการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ และมาตรการที่มีอยู่เดิม และการพัฒนาสิทธิประโยชน์ใหม่ที่จำเป็น ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ยังคงขับเคลื่อนการดำเนินงานสร้างเด็กเกิดมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ วิวาห์สร้างชาติ และในปี 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรม “Life Balance smart Family” ชีวิตสมดุล ครอบครัวคุณภาพ เนื่องในเทศกาลวันวาเลนไทน์ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วน ในการร่วมสร้างความสมดุลในชีวิตให้กับประชาชน ทั้งความสมดุลในด้านการทำงาน การเลี้ยงดูบุตร การมีรายได้ สุขภาพ การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม

ซึ่งนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการใช้ชีวิตวิถีใหม่ เราจะขยับไปทีละก้าวอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ยังได้เตรียมของขวัญพิเศษ 2 กิจกรรมให้กับประชาชน ทั้งคนโสดและคนมีคู่ คือ

1) การจัดกิจกรรมโสดมีตติ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้คนโสดที่รอเนื้อคู่ได้พบปะพูดคุย เปิดใจและได้เรียนรู้ในการสร้างมิตรภาพต่อกัน และ

2) การให้คู่รักที่ต้องการมีบุตร ได้ลุ้นรับคูปองตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร การตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก การเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก จากโรงพยาบาลที่ให้การสนับสนุนโครงการ รวมถึงการมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างใกล้ชิด มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท

ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปสมัครลงทะเบียน ร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์–31 มีนาคม 2564” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชน ได้รับสิทธิประโยชน์ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ไปจนถึงหลังคลอด ทั้งในส่วนที่เป็นด้านสาธารณสุขและการจัดสวัสดิการสังคม อาทิ การตรวจคัดกรองสุขภาพตามกลุ่มวัย การฝากครรภ์ การคลอด การเยี่ยมหลังคลอด  การส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมโภชนาการ การพัฒนาด้านสติปัญญา การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และการดูแลสุขภาพช่องปาก

รวมถึงการให้สิทธิการลาคลอด การให้เงินสงเคราะห์ การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร การลดหย่อนภาษีจากค่าฝากครรภ์หรือค่าคลอดบุตร การลดหย่อนภาษีสำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย การให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด – 6 ปี การจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบการ การพัฒนาสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและสวัสดิการเรียนฟรี 15 ปี เป็นต้น

พร้อมทั้งอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผลักดันสิทธิประโยชน์ด้านการตรวจการติดเชื้อซิฟิลิสก่อนมีบุตร และการตรวจคัดกรองซิฟิลิสคู่ของหญิงตั้งครรภ์ การช่วยเหลือภาวะมีบุตรยาก บริการตรวจสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย การตรวจคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็ง และมะเร็งช่องปาก ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และกำลังจะผลักดันมาตรการส่งเสริมการจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย อายุต่ำกว่า 3 ปี ที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดความกังวลใจเรื่องการเลี้ยงดูบุตรระหว่าง    การทำงาน ทำให้พ่อแม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยตนเองมากขึ้น