Onlinenewstime.com : ไลอ้อน เปิดตัว “กู๊ดเอจ แฟล็กชิพ สโตร์” ปักหมุดทำเลใจกลางเมือง บน BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ ตั้งเป้าเป็นร้านค้าต้นแบบ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและผิวกายเพื่อผู้สูงอายุแห่งแรกของไทย ชูจุดเด่นระบบการขายแบบสังคมไร้เงินสด พร้อมเปิดพื้นที่เป็นคอมมูนิตี้ให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสุขภาพด้วยคอนเซปต์ “เข้าใจวัยเก๋า”
นายกัณฑชิต ศรัณย์บัณฑิต ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย เปิดเผยว่า ได้เปิดตัว “กู๊ดเอจ แฟล็กชิพ สโตร์” (GoodAge Flagship Store) บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยตั้งเป้าให้เป็นร้านค้าต้นแบบ แห่งแรกของเมืองไทย ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและผิวกายแบรนด์ “กู๊ดเอจ” สำหรับผู้สูงอายุในวัย 50 ปีขึ้นไป
ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ตรง ได้จากหน้าร้าน ด้วยระบบการขายและการชำระเงินในรูปแบบ Cashless เป็นการจ่ายผ่านการสแกน QR Code ที่บริเวณหน้าร้าน ลูกค้า สามารถสแกนทำการสั่งซื้อด้วยตนเอง แล้วแจ้งพนักงานเพื่อรับสินค้าได้ทันที สอดรับกับวิถีสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ “กู๊ดเอจ แฟล็กชิพ สโตร์” ยังมีจุดเด่นที่แตกต่าง มากกว่าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยทั่วไป ซึ่งบริษัทฯ มีการออกแบบร้านที่เน้นความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย ผู้ใช้บริการรู้สึกสะดวกและสบายใจ ที่จะเข้ามาสอบถามข้อมูลสินค้า และปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั้งกับตัวผู้สูงอายุ หรือ Parent carer
โดยตั้งใจให้เป็นคอมมูนิตี้หนึ่ง ที่ช่วยเหลือสังคมผู้สูงอายุในหลากหลายมิติ ด้วยคอนเซปต์ “เข้าใจวัยเก๋า” ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ ให้ผู้สูงอายุเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ และข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ได้แสดงออกทางสังคมร่วมกัน
ในแต่ละเดือน จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายให้ผู้สูงอายุได้เข้ามามีส่วนร่วม เช่น มีการเชิญแพทย์เข้ามาให้ความรู้ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ การจัด Workshop เกี่ยวกับการดูแลตนเอง การตรวจวัดความชุ่มชื้นของผิว พร้อมแนะนำวิธีการดูแลผิวให้เหมาะสม ตลอดจนการจัดกิจกรรมนันทนาการ เพื่อช่วยเสริมสร้างรอยยิ้มและความสนุกสนานให้ผู้สูงอายุ เป็นต้น
นอกจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน “กู๊ดเอจ แฟล็กชิพ สโตร์” แล้ว บริษัทฯ ยังมีอีก 4 ช่องทางเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึง ได้แก่ 1.ร้านโมเดิร์นเทรด 2.ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ 3.โรงพยาบาล ร้านผู้สูงอายุ ร้านขายยา และร้านค้าปลีก Chivit-D by SCG 4.แพลตฟอร์มออนไลน์ Lazada, Shopee, JD และ Line : Lion Family หรือ เว็บไซต์ และ เว็บไซต์
“กู๊ดเอจ เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ในเครือของไลอ้อน ประเทศไทย ที่ผลิตและพัฒนาขึ้ นเพื่อให้เหมาะกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสุขภาวะวัยที่เปลี่ยนไป โดยทุกผลิตภัณฑ์ จะเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด ช่วยชะลอความเสื่อมของวัย และมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข
การเปิดกู๊ดเอจ แฟล็กชิพ สโตร์ บริษัทฯ มองว่าเป็นช่องทางสำคัญ ในการเพิ่มโอกาสให้ผู้สูงอายุคนไทย ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง โดยร้านอยู่ในทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ติด BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางออก 1 ฝั่งเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า และใกล้โรงพยาบาลต่างๆ
ซึ่งผู้สูงอายุ สามารถเข้ามาซื้อใช้เองได้ หรือลูกหลานสามารถเข้ามาซื้อให้ญาติผู้ใหญ่ได้ และในอนาคตบริษัทฯ จะมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อ งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุให้มากที่สุด” นายกัณฑชิต กล่าว
ปัจจุบัน กู๊ดเอจ มีการทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาวะวัยใน 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปาก จำนวน 7 รายการ ได้แก่ 1. แปรงสีฟัน Triple Lock 2.แปรงสีฟันรักษ์โลก Triple Lock Bio Brush 3.ยาสีฟัน Hyper Salt สูตรเกลือ 3% 4.ยาสีฟัน Sensitive Shield 5.ยาสีฟัน Herbal Total Care 6.ยาสีฟัน Hydration Plus 7.น้ำยาบ้วนปาก Mild&Gentle Care และ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว จำนวน 6 รายการ ได้แก่ 1.แชมพู Soft & Smooth 2.วิปโฟมอาบน้ำ Anti-Dry Foaming Bath 3.โลชั่น Deep Moisture Anti-Ageing Body Lotion 4.โลชั่น Dark Spot Corrector 5.แป้งเนื้อโลชั่น Smooth & Moisture 6.ลิปแคร์ Deep Moisture
โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้แก่ โลชั่นบำรุงผิวกาย GoodAge Dark Spot Corrector ตอบโจทย์เรื่องการบำรุงผิว ด้วยนวัตกรรม Endermatic Bright อนุภาคเล็กระดับนาโน ได้รับการจดสิทธิบัตรและรับรางวัลด้านนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี และยาสีฟัน Hydration Plus มีสาร Cordycepin จากถั่งเช่าสีทอง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในช่องปาก ลดปัญหาปากแห้งของผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ดี สำหรับการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการที่ประเทศไทย กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยคาดว่าในปี 2021 จะมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมด โดยในส่วนของบริษัท ตั้งแต่ต้นปีเทียบกับปีก่อนมียอดขายโดยรวมทั้งแบรนด์เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม แสดงให้เห็นว่ามีการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายที่มากขึ้น