fbpx
News update

ทุเรียนแชมป์ส่งออก ขณะที่ตลาดผลไม้แปรรูปมาแรงในตลาดขนมขบเคี้ยว

สถาบันอาหารเผยตัวเลขตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้ยังโตต่อเนื่อง  จากปี 2558 ถึงปี 2559 มีอัตราการเติบโต 19% สามารถ โกยรายได้เข้าประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท  โดยทุเรียนสดมีการส่งออกมากที่สุด จับตาตลาดผลไม้แปรรูปลักษณะขนมขบเคี้ยวทั้งในและต่างประเทศเริ่มมาแรงตอบโจทย์กระแสสุขภาพ ผลักดันให้ไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออกผลไม้อบแห้งเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากตุรกีและสหรัฐ และส่วนของตลาดน้ำผลไม้  แนวโน้มในอนาคตจะปรับไปในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แบบผง หรือพร้อมชงมากยิ่งขึ้น

นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปี 2559 ไทยมีปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้ทั้งหมด 2.8 ล้านตัน มูลค่า 119,630 ล้านบาท  คิดเป็นสัดส่วน13% ของมูลค่าส่งออกอาหารไปต่างประเทศทั้งหมด และแนวโน้มอุตสาหกรรมผลไม้จะยังมีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

นอกจากนั้นยังมองเห็นโอกาสของ ตลาดผลไม้แปรรูปที่มีลักษณะเป็นขนมขบเคี้ยวที่ทานได้ง่าย เช่น ผลไม้ทอด ทอฟฟี่ผลไม้ และผลไม้อบแห้ง จะมีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ตอบโจทย์กระแสการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรง

“ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น และเอกลักษณ์ของผลไม้เขตร้อนของไทยที่มีความหลากหลาย จะทำให้การเติบโตยังคงมีสูงโดยเฉพาะตลาดผลไม้แปรรูป ส่วนของน้ำผลไม้ คาดว่าในอนาคตจะปรับไปในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แบบผง หรือพร้อมชงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้บริโภค และยังเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่งของผู้ประกอบการอีกด้วย”นายยงวุฒิกล่าว

สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้ของไทยในปีที่ผ่านมาพบว่า ผลิตภัณฑ์ผลไม้สดมีสัดส่วนการส่งออกสูงที่สุด มีมูลค่า 32,412 ล้านบาท คิดเป็น 27 % ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้ทั้งหมด ขยายตัวเพิ่มขึ้น 21%  โดยการส่งออกส่วนใหญ่มีตัวเลขดังนี้

อันดับ 1 คือ การส่งออกทุเรียนสดกว่า 52 % ของมูลค่าการส่งออกผลไม้สดทั้งหมด หรือในราว 16,800 ล้านบาท

อันดับถัดมา  คือ ลำไย มังคุด เงาะ และลองกอง เป็นต้น

         ส่วนผลิตภัณฑ์ผลไม้ที่มีสัดส่วนการส่งออกรองจากผลไม้สด ได้แก่

         น้ำผลไม้ คิดเป็น 23% มีมูลค่าราว 27,256 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 28%

         สับปะรดกระป๋อง สัดส่วน 18% มูลค่า 21,074 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9 %

         และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 9% มีมูลค่าราว 10,910 ล้านบาท โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 53 %

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ส่งผลให้ ผลไม้อบแห้งเป็นขนมคบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ มีการเติบโตสูง เพราะมีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต ทำให้สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคในต่างประเทศหันมานิยมบริโภคผลไม้อบแห้งเป็นขนมคบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ ส่งผลให้การส่งออกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยและแนวโน้มดังกล่าว ส่งให้ไทยมีการส่งออกผลไม้อบแห้ง เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากตุรกี และสหรัฐฯ ตลาดส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน จีน และฮ่องกง เป็นต้น

“ตลาดส่งออกของไทย ได้แก่ สหรัฐฯ จีน เวียดนาม และฮ่องกง ตามลำดับ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าส่วนใหญ่ของสหรัฐกว่า 80% เป็นการนำเข้าน้ำผลไม้ และสับปะรดกระป๋อง แตกต่างจากจีนและฮ่องกง ที่การนำเข้าส่วนใหญ่ 60% และ 80% ตามลำดับ เป็นการนำเข้าผลไม้สดจากไทย

โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ที่ชาวจีนนิยมบริโภคอย่างมาก ส่วนเวียดนามมีอัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึง 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นการนำเข้าในลักษณะเพื่อไปขายต่อให้กับประเทศจีนซึ่งมีพรมแดนติดกับเวียดนาม”นายยงวุฒิกล่าว

นายยงวุฒิ ยังได้กล่าวอีกว่าเมื่อเร็วๆนี้ สถาบันฯร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีการมอบเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม” (East coast quality fruit products : ECF) ให้แก่ผู้ประกอบการ 11 ราย รวม 16 ผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการคัดสรรโดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ทุเรียนหมอนทองอบกรอบตราแม่ลี้, ทุเรียนทอดตราป้าแกลบ, ทุเรียนกวน ทุเรียนสุกกรอบตราจ๊าบ, ทุเรียนฟรีซดรายตรา Fruitural, กล้วยหอมทองอบกรอบ ทุเรียนอบกรอบ ขนุนทองประเสริฐอบกรอบตราฟรุ๊ตคิง, ทุเรียนอบกรอบ ขนุนอบกรอบตรา KTV, ทุเรียนอบกรอบ ฟรีซดราย ตราบีฟรุ๊ต, น้ำสำรองผสมดอกคำฝอย ตราต้นตำรับ, น้ำมังคุดสูตร Extra สูตร Balance ตรา Xanberry, น้ำมังคุดสูตร 33% ตราไทยสโนว์ และเนื้อลูกสำรองชนิดแห้งพร้อมชงดื่ม ตรา J House