รัฐบาลเตรียมเปิดศูนย์เฉพาะกิจ ติดตามสถานการณ์น้ำ 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันมีการติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิดตลอดเดือนสิงหาคม
นายสมกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.61) จะเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วมที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำ
ศูนย์แห่งนี้จะรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำทั้งหมดในประเทศ มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าร่วม มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพร่องน้ำ และการจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน โดยการทำงานศูนย์นี้ จะประมวลผลเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน ใช้กับทุกหน่วยงาน โดยอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำงานอย่างรวดเร็ว
เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำของประเทศล่าสุด อยู่ในระดับสีเหลือง หรือ เตรียมการเฝ้าระวัง
อีกทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีพายุเข้ามายังประเทศไทยอีกลูก
สำหรับสิ่งที่เฝ้าระวัง แบ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 11 แห่ง มีสองแห่งสถานการณ์น้ำน่าเป็นห่วง คือ อ่างเก็บน้ำอูน จ.สกลนคร และอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80 % ของความจุ จึงมีต้องมีการพร่องน้ำตามเกณฑ์ภายใน 5 วัน พร้อมแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ก่อน 3 วัน
ขณะที่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีมากกว่า 30 แห่ง อยู่ในการดูแลของกรมชลประทาน และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีมากกว่า 1 พันแห่ง มอบมายให้ส่วนท้องถิ่นตรวจสอบความแข็งแรง และเฝ้าระวังปริมาณน้ำ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในปีนี้บางพื้นที่สูงกว่า ปี 2554 ในบางแห่ง เช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ แต่ยังสามารถบริหารจัดการน้ำได้ เพราะหากมีการพร่องน้ำจะมีการประกาศล่วงหน้า
ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณ จ.เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร
ดังนั้น ต้องเร่งประสานแผนการระบายน้ำจาก สปป.ลาว และจีน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ เนื่องจากหากทราบแผนจะเตรียมการรับมือได้ก่อน 1 สัปดาห์