www.onlinenewstime.com : ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ผนึกภาคี รายงานสถานการณ์พนันปี 62 พบคนไทยเล่นพนัน 30.42 ล้านคน เพิ่มจากปี 60 ล้านกว่าคน ช็อกซ้ำ! เป็นเยาวชน 3.7 ล้านคน อายุต่ำสุด 7 ขวบ และกลุ่มผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นการพนัน 3.35 ล้านคนด้าน 5 อันดับพนันยอดฮิต สลากกินแบ่งฯ หวย ไพ่ แทงบอล ไฮโล/โปปั่น/น้ำเต้าปูปลา
จากเวทีการประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2562 “สังคมเท่าทัน การพนันไม่ล้ำเส้นเสี่ยง” โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และภาคีเครือข่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ในปี 2562 พร้อมจัดเวทีอภิปรายหาทางแก้ไขปัญหา โดยตัวแทนจากทุกภาคส่วน
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ได้ริเริ่มให้มีกลุ่มแผนงานลดปัญหาจากการพนันมาตั้งแต่ปี 2553 ประสานและเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้สังคมตระหนัก และร่วมกันจัดระเบียบการพนัน โดยสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้อย่างเท่าทัน ผลักดันให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกัน มีสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงการพนันได้ยาก
ทั้งยังพัฒนาและผลักดันการขับเคลื่อนข้อเสนอนโยบายสาธารณะ และมาตรการต่างๆ ที่จะต้องมีทิศทางไม่เพิ่มพื้นที่การพนัน โดยปัจจุบันหลายประเทศ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและลดปัญหาจากการพนัน ทำหน้าที่สร้างความสมดุลในสังคม ป้องกันไม่ให้คนเล่นการพนันก้าวล้ำเส้นเสี่ยงไปสู่ภาวะ “ติดการพนัน” และจัดให้มีบริการสำหรับผู้มีปัญหาติดการพนัน ทั้งตัวคนเล่นและคนใกล้ชิด
“องค์การอนามัยโลกจัดให้โรคติดพนันเป็นโรคทางจิตเวช กลุ่มความผิดปกติเกี่ยวกับจิต พฤติกรรม หรือพัฒนาการทางระบบประสาท หลายคนที่เลิกไม่ได้ มักเกิดปัญหาในชีวิตตามมา เช่น ปัญหาสุขภาพจิต สุขภาพกาย หนี้สิน ครอบครัว การใช้ความรุนแรง อาชญากรรม ฯลฯ หวังว่าในอนาคตอันใกล้ ไทยจะมีหน่วยงานหรือคณะกรรมการป้องกันและลดปัญหาจากการพนันเกิดขึ้นเช่นเดียวกับในต่างประเทศ” ดร.สุปรีดา กล่าว
สถานการณ์การพนันในสังคมไทยปี 2562
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (CGS) กล่าวว่า CGS ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ดำเนินโครงการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2562 เก็บข้อมูลกับประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้ง 77 จังหวัด รวม 44,050 ตัวอย่าง พบว่า ปี 2562 คนไทยเล่นการพนันร้อยละ 57 หรือประมาณ 30.42 ล้านคน
เทียบกับปี 2560 เพิ่มขึ้นประมาณ 1.49 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่ 7 แสนกว่าคน แม้พบว่านักพนันส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัยทำงาน
แต่น่ากังวลใจที่เยาวชนอายุ 15-18 ปี เล่นการพนันประมาณ 7.33 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.9 ของกลุ่มเด็ก ขณะที่เยาวชนอายุ 19-25 ปี เล่นการพนันประมาณ 3.05 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.3 ของกลุ่มเยาวชน และอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าห่วงใยคือ กลุ่มผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นพนันประมาณ 3.35 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 42.2 ของกลุ่มผู้สูงวัย สำหรับอายุเริ่มเล่นพนันครั้งแรกต่ำสุดอยู่ที่ 7 ขวบ เท่ากับการสำรวจหลายครั้งที่ผ่านมา
“การพนันยอดนิยม 5 อันดับแรกยังคงเหมือนกับผลสำรวจปีที่ผ่านๆ มา ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน ไพ่ พนันทายผลฟุตบอล และไฮโล/โปปั่น/น้ำเต้าปูปลา ในส่วนพนันออนไลน์พบว่าคนไทยเคยเล่น ร้อยละ 7.4 หรือประมาณ 3.19 ล้านคน แต่เมื่อดูจากวงเงินที่หมุนเวียนในตลาดพนันพบว่า พนันทายผลฟุตบอลมาเป็นอันดับ 1 มีวงเงินพนันหมุนเวียนมากถึง 160,542 ล้านบาท ตามมาด้วยหวยใต้ดิน 153,158 ล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 150,486 ล้านบาท” รศ.ดร.นวลน้อย กล่าว