- พยาบาลเปรียบเสมือนหัวใจหลักของระบบสุขภาพ
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เผย โลกกำลังขาดแคลนพยาบาล และควรมีการผลิตพยาบาลให้ได้อย่างต่ำ 6 ล้านคน ภายในปี คศ. 2030 ทั้งนี้ยังเพื่อเป็นการรองรับการขาดแคลน เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ตัวอย่างเช่นการแพร่ระบาดของโควิด-19
- ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนพยาบาล ทั้งในภาวะปกติ ภาวะฉุกเฉิน อย่างเช่นในสถานการณ์โควิดและในภาวะเตรียมความพร้อมสู่การเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)”
Onlinenewstime.com : พยาบาลวิชาชีพในยุค 5.0 สำหรับสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางกระแสความขาดแคลนกำลังคน และ โรคอุบัติใหม่ ความรอบรู้ทั้งเรื่องมนุษย์ สังคมยุคใหม่ เทคโนโลยี และความรู้ทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
การสร้างทักษะใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม (reskill) และ เพิ่มความสามารถในการทำงาน โดยใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เข้ากับการทำงาน (Upskill) จึงเป็นประเด็นที่สำคัญในการพัฒนาบัณฑิต พยาบาลศาสตรบัณฑิต
ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ต้องการสืบทอดพระราชปณิธานในการขจัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน ซึ่งจัดตั้ง สภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขึ้นพร้อมรับนักศึกษา หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต รุ่นแรกในปีการศึกษา 2560 จำนวน 50 คน มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถ รอบรู้ในศาสตร์ทางการพยาบาล และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง มีคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล มีอุดมการณ์ มีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อวิชาชีพ และเป็นพลเมืองดีที่สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม ภายใต้ปรัชญา “ดูแลคนด้วยหัวใจ”
รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา บุญทอง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่าเพื่อตอบสนองพระปณิธาน อีกทั้งยังเป็นการรองรับสถานการณ์ และปัญหาสาขาวิชาชีพขาดแคลน สถาบัน ววจ. ได้เปิด หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2564 คือ พยาบาลศาสตรบัณฑิต สำหรับผู้สำเร็จปริญญาตรีสาขาอื่น
โดยรับบุคคลที่จบปริญญาตรีสาขาอื่น ที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพมาเป็นพยาบาลวิชาชีพ มุ่งเน้นให้ผู้สำเร็จการศึกษา มีสมรรถนะเรื่องการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม และ การพัฒนาคุณภาพการพยาบาล อีกทั้งยังเป็นไปตามพันธกิจของสถาบัน ซึ่งมุ่งตอบสนองความต้องการของประเทศ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมผู้สูงอายุ และการเพิ่มกำลังคนสาขาหลักของสาธารณสุข
หลักสูตรนี้ผลิตบุคลากรสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มุ่งขยายโอกาสทางการศึกษา ให้กับบุคคลโดยไม่จำกัดเพศ วัย เชื้อชาติ หรือเศรษฐานะ ให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ในการแก้ปัญหาโดยรวม อาทิ ตอบสนองความต้องการบุคลากรพยาบาลของประเทศที่กำลังขาดแคลน ปัญหาการว่างงานของประชาชน ส่งเสริมคุณภาพการบริการทางสุขภาพ และพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางการบริการทางสุขภาพ
โดยทางสถาบันฯ มีความพร้อมอย่างมาก ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษามีศักยภาพสามารถใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของบริการทางสุขภาพ รองรับความต้องการในวิชาชีพขาดแคลน
ทั้งนี้ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ประกอบกับความมุ่งมั่น ที่จะส่งมอบบัณฑิตซึ่งมีทักษะความเชี่ยวชาญ ภายใต้ปรัชญาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต” จึงได้จัดการเรียนการสอน ให้สอดคล้องและพัฒนาหลักสูตรสม่ำเสมอ ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง เน้นสร้างประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง รวมทั้งปรับระบบการเรียนการสอน ให้เป็นการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักศึกษามีทักษะจำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล รู้จักเรียนรู้ตลอดชีวิต
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (สำหรับผู้สำเร็จปริญญาตรีสาขาอื่น) มีจุดเด่นที่ใช้ระยะเวลาในการศึกษาเพียง 2 ปี 6 เดือน จะมุ่งเน้นให้ผู้สำเร็จการศึกษา มีสมรรถนะเรื่องการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม และที่สำคัญคือการพัฒนาคุณภาพทางการพยาบาล มีระบบการเทียบโอนหน่วยกิต รับบุคคลที่จบปริญญาตรีสาขาอื่น ที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพมาเป็นพยาบาลวิชาชีพ และใช้การเรียนรู้ที่เน้นการเรียนแบบผู้ใหญ่ (Adult learning)
มุ่งให้มีประสบการณ์จริง ทั้งในห้องปฎิบัติการเสมือนจริงและการปฎิบัติในโรงพยาบาลและในชุมชน ใช้กระบวนการเรียนแบบผสมผสาน (Blended learning) ทั้ง online และ onsite มีโครงการและกิจกรรมภาคสังคม ให้นักศึกษาลงมือปฏิบัติเพื่อเพิ่มพูนทักษะต่างๆ อาทิเช่น การทำงานวิจัยร่วมกับคณาจารย์ การให้บริการวิชาการแก่ประชาชน และ การออกหน่วย พอ.สว. ร่วมกับสหวิชาชีพ
สำหรับ คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาอื่น ที่ไม่ใช่สาขาพยาบาล และต้องมีระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับปริญญาตรี ไม่ต่ำกว่า /2.50 (จากหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม/กระทรวงศึกษาธิการ/ทบวงมหาวิทยาลัย) มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เจ็บป่วยหรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือมีความผิดปกติที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบอาชีพ เช่น ตาบอดสีรุนแรง หูหนวกหรือหูตึง เป็นต้น
นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา คณบดี ยังกล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน พยาบาลวิชาชีพ มีความสำคัญในสถานบริการด้านสุขภาพทุกระดับ ตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิทั้งของรัฐและเอกชน รวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุขในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือปฏิบัติงานในสถานประกอบการต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านสุขภาพ อาทิเช่น โรงงาน โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น นักวิจัยปฏิบัติงานในสถาบันวิจัยหรือนักวิจัยอิสระ นักประกอบการทางสุขภาพ ผู้ดำเนินการสถานดูแลสุขภาพ หรือประกอบอาชีพอิสระอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
อีกทั้งระดับมหภาค “พยาบาล”เป็นวิชาชีพขาดแคลน จากข้อมูล ตามรายงานของสภาพยาบาลและสภาการพยาบาลระหว่างประเทศและองค์การอนามัยโลกระบุว่า วิชาชีพพยาบาล เป็นกลุ่มบุคลากรทางสุขภาพ ที่มีสัดส่วนมากที่สุดคิดเป็น ร้อยละ 59 ของวิชาชีพด้านสุขภาพ ขณะที่ทั่วโลกมีพยาบาลวิชาชีพอยู่ราว 28 ล้านคน ซึ่งในระยะสั้นช่วง 10 ปีข้างหน้า ความต้องการพยาบาล จะเพิ่มขึ้นประมาณ 5.9 ล้านคน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้น ผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้สามารถมั่นใจในโอกาสการทำงาน
*** สำหรับผู้สนใจ กำหนดการ เปิดรับสมัคร รุ่น 1 จำนวนรับสมัคร 100 คน วันที่ 28 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม 2564 และเปิดภาคเรียน เดือนสิงหาคม 2564 ***
สอบถามเพิ่มเติม โทร: 089-671-0633 (ในเวลาราชการ) สมัครออนไลน์: http://nurse.pccms.ac.th/ Email: nursing@pccms.ac.th Fakebook: @nurse.pccms