fbpx
News update

สภาพอากาศกทม.และปริมณฑลจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3 วัน

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ย้ำ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกิดสภาพอากาศปิด ทำให้มีการสะสมของฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มขึ้น คาด สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3 วัน

นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงบ่ายของวันนี้ ว่า ตรวจพบปริมาณค่า PM2.5 บริเวณพื้นที่ริมถนนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 20 พื้นที่ ระหว่าง 65-103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนพื้นที่ทั่วไปอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 14 พื้นที่ ระหว่าง 55-96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สาเหตุหลักมาจากการจราจร ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่มีหมอกในตอนเช้า อากาศนิ่ง และมีสภาพอากาศปิด ทำให้มีการสะสมของฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่า ภายใน 2-3 วันสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

อย่างไรก็ตามได้ให้แนวทางแก้ไขโดยกรมควบคุมมลพิษ ประสานแก้ปัญหาร่วมกับกรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการแก้ปัญหา PM2.5 จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ติดตามตรวจสอบและรายงานสถานการณ์ PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

การคาดการณ์และแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการ 1 เขต 1 ถนนสะอาด การตั้งจุดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมาย การตั้งจุดตรวจสอบควันดำจากรถโดยสารสาธารณะ การเพิ่มความถี่ในการล้างถนนและดูดฝุ่นถนน การรณรงค์เรื่องการดูแลรักษารถเพื่อลดมลพิษ การควบคุมฝุ่นละอองจากกิจกรรมการก่อสร้าง สื่อสารแนะนำการปฏิบัติตนแก่ประชาชน การขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการงดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเปลี่ยนมาใช้ระบบสาธารณะ งดการเผาในที่โล่งทุกประเภท และขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งงดใช้รถยนต์ที่มีควันดำอย่างเด็ดขาด

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวอีกว่า กรมควบคุมมลพิษและกองบังคับการตำรวจจราจร ได้ตั้งจุดตรวจจับรถควันดำบริเวณถนนกาจญนาภิเษก เพื่อควบคุมกำกับดูแลการระบายมลพิษจากยานพาหนะ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และลดปริมาณฝุ่นละอองจากยานพาหนะ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหา พร้อมขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด อย่าตื่นตระหนก กลุ่มคนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สำหรับกลุ่มเสี่ยง คือ เด็ก คนชรา หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัวให้คอยสังเกตอาการ หากผิดปกติให้ไปพบแพทย์ โดยสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศทันสถานการณ์ผ่านเว็บไซด์ http://www.air4thai.pcd.go.th  และ แอพพลิเคชั่น air4thai

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์