fbpx
News update

สำนักงานสลากฯ เดินหน้าจำหน่ายสลากฯ บนแพลตฟอร์มผ่านแอปเป๋าตัง โดยธนาคารกรุงไทย

Onlinenewstime.com : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแถลงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคา และการดำเนินการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากดิจิทัล (Digital Lottery) ผ่านแอปพลิเคชันของภาครัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงต่อผู้สื่อข่าว (28 เมษายน 2565) ถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคา และการดำเนินการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากดิจิทัล (Digital Lottery) ผ่านแอปพลิเคชันของภาครัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสลาก 80  ล่าสุดเปิดให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุด ในกทม. และภาคกลาง และในงวดวันที่ 1  มิถุนายน 2565 จะมีเพิ่มอีก 151 จุด ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญาอีก 48 ราย ในภาคตะวันออก และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกประมาณ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อให้โครงการสลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ที่มีผู้สมัครเข้ามาทั้งรายเก่าและรายใหม่จำนวนกว่า 1 ล้านราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการเป็นผู้ขายจริง คาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง 

สำหรับโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มนั้น ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกับธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยจะใช้แอปพลิเคชันของภาครัฐคือ แอปถุงเงินและแอปเป๋าตัง เป็นหลักใช้โครงข่ายการเชื่อมโยงในโครงการ Block chain ของกระทรวงการคลัง  โดยที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ จะเข้าไปเป็นร้านค้าในแอปถุงเงิน และประชาชนทั่วไปจะสามารถซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในแอปเป๋าตัง

ปัจจุบันประชาชนใช้งานแอปเป๋าตังประมาณ 30 ล้านบัญชี สำหรับระยะเริ่มต้น งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ที่จะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 นั้น จะมีสลากจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000,000 ฉบับ 

ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า การจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลตฟอร์ม เป็นเพียงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเท่านั้น แต่รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายยังคงเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบ ที่มีการจัดการเกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ เหมือนเดิม  เป็นการจำหน่ายสลากฯ ผ่านระบบตัวแทนจำหน่าย และระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เช่นเดิม

รวมทั้งมีการจัดสรรเงินรางวัลที่ได้รับจากการจำหน่ายสลาก การออกรางวัลเดือนละ  2 ครั้ง และการจ่ายเงินรางวัล ก็ยังคงไว้ซึ่งในรูปแบบเดิมเช่นเดียวกัน โดยใช้สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบ เป็นหลักฐานในการขอรับเงินรางวัลของผู้ถูกรางวัล

การจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม จะทำให้ผู้ซื้อ สามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท และมีสลากให้เลือกซื้อเลขได้มากขึ้น มีช่องทางที่สะดวกและเชื่อถือได้ เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันของภาครัฐที่มีความปลอดภัย 

สำหรับสลากที่ซื้อก็มีการบันทึกข้อมูลไว้ แสดงสิทธิในตัวสลาก ไม่ต้องกังวลหากสลากหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก

อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันตามวิถีดิจิตัลยุคใหม่  ลดความเสี่ยงในการสัมผัสจับเงินสดและตัวสลากตามวิถีใหม่ด้วย 

ในส่วนของผู้ขาย ก็จะได้ประโยชน์จากการนำสลากมาขายบนแพลตฟอร์ม  ที่ทำให้มีช่องทางในการขายเพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการขาย ซึ่งจากเดิมที่อาจจะขายบนแผงหรือเดินเร่ขาย มาเป็นขายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขาย เนื่องจากอัตราในการเห็น (eyeballs) เพิ่มมากขึ้น  ก็จะมีโอกาสถูกเลือกซื้อมากขึ้นกว่าการวางขายแค่บนแผงของตัวเอง 

ประกอบกับมีเวลาในการขายมากขึ้น ตั้งแต่ 06.00 น. – 23.00 น. ทุกวัน จนถึงก่อนเวลา 14.00 น.ของวันออกรางวัล 

นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค(ผู้ซื้อ) ตามวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันด้วย

สำหรับขั้นตอนและรายละเอียดในการดำเนินการนั้น พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า จะเริ่มทดสอบระบบเป็นการนำร่อง 2 ครั้ง (2 งวด) เป็นระบบปิด โดยครั้งแรก จะทดสอบระบบด้วยการนำสลากงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 4,500 ฉบับ จากตัวแทนจำหน่ายรายย่อย และสมาคม/องค์กร

โดยขั้นตอนจะเริ่มจากการสแกนสลาก  3 – 6 พฤษภาคม 2565 และเริ่มจำหน่าย 10 – 16 พฤษภาคม 2565 และจะทำการทดสอบการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม ครั้งที่ 2 สลากงวด 1  มิถุนายน 2565 ด้วยจำนวนสลากเท่าครั้งแรก และมีขั้นตอนเช่นเดียวกัน

จากนั้น จะเป็นการจำหน่ายจริง งวด 16 มิถุนายน 2565  จำนวนสลากไม่น้อยกว่า 5,000,000 ฉบับ โดยจะใช้เวลาในการสแกนสลาก 6 วัน ช่วง  27 พฤษภาคม–1 มิถุนายน 2565 และเริ่มจำหน่ายวันที่ 2 มิถุนายน 2565 

ในเบื้องต้น  สำนักงานสลากฯ จะเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายฯ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป โดยผู้สมัครจะต้องเป็น ตัวแทนจำหน่ายสลากรายเดิม หรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ปี 2558 ที่ยืนยันรับสิทธิ์ผ่านแอป “เป๋าตัง” แล้ว และผู้สมัครจะต้องลงทะเบียนใช้งาน “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” แล้ว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากดิจิทัล  เป็นระบบ ซื้อ-ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการนำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน มาสแกนเป็นภาพสลากและชุดข้อมูลสลาก ประกอบด้วย งวดวันที่ งวดที่ ชุดที่ เล่มที่ และหมายเลขสลาก นำเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยใช้ภาพสลากและชุดข้อมูลสลาก เป็นข้อมูลอ้างอิงแทนสลากฉบับจริง โดยที่สลากฉบับจริงนั้น จะถูกจัดเก็บไว้ที่สำนักงานสลากฯ เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงกับชุดข้อมูลสลากฯ ในแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากฯ

สำหรับแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากฯ หรือสลากดิจิทัล นั้น จะทำการซื้อ-ขายสลากฯ ตามราคาที่สำนักงานกำหนดไม่เกิน 80 บาทต่อฉบับ และผู้ซื้อ-ขายสลากฯ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ชำระเงินค่าสลากฯ ผ่านระบบรับชำระเงินในแพลตฟอร์มเท่านั้น ไม่รับเงินสด

เมื่อผู้ซื้อสลากฯ ถูกรางวัล สามารถมารับเงินรางวัลด้วยตนเองได้ที่สำนักงานสลากฯ  โดยสลากฉบับจริงจะอยู่ที่สำนักงานเพื่อใช้ในการอ้างอิงผลรางวัลและการรับเงินรางวัลของผู้ถูกรางวัล หรือจะขอรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินของธนาคารกรุงไทยก็ได้ โดยจะมีค่าธรรมเนียมร้อยละ 1

กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากฯ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการติดตามและประเมินผลโครงการนั้น สำนักงานฯ ได้เตรียมการสร้างแบบฟอร์มและช่องทางการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบไว้แล้ว  อย่างไรก็ตาม จำนวนสลาก 5 ล้านฉบับ ที่จะเริ่มจำหน่ายงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 เป็นเพียงปริมาณที่กำหนดไว้ในระยะแรกเท่านั้น  โดยมุ่งหมายที่จะให้เกิดประโยชน์กับประชาชนผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด และคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ขายสลากทั้งที่ขายอยู่ในแพลตฟอร์ม และที่ไม่ได้อยู่ในแพลตฟอร์มด้วย 

ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากมีตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ซื้อจองฯ มีความสนใจจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์มมากขึ้น สำนักงานสลากฯ ก็พร้อมดำเนินการเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย