Onlinenewstime.com : กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย หากเกิดอาการไม่ควรซื้อยากินเอง เพราะบางครั้งอาการเวียนศีรษะ อาจเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของโรคอื่นๆได้
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการบ้านหมุน เป็นปัญหาสุขภาพที่ สร้างความรำคาญและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะระหว่างทำงาน หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรอาจเกิดอันตรายได้
อาการที่พบได้บ่อย คือ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ทรงตัวลำบาก บ้านหมุน คล้ายกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน หรือ รู้สึกว่าตัวเองหมุน ทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหว อาจมีอาการทางหูร่วมด้วย เช่น หูอื้อ มีเสียงในหู เป็นต้น
ดังนั้นการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง จึงมีความสำคัญกับผู้ป่วย เพราะถ้าได้รับการรักษาในระยะแรก จะได้ผลดี หากสงสัยว่าตนเองมีความผิดปกติ รู้สึกเวียนศีรษะ บ้านหมุน โดยที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือมีประวัติโรคหู ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่ถูกต้อง
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของอาการบ้านหมุน มักเกิดจากสาเหตุของหูชั้นใน ถ้ามีอาการเวียนศีรษะรุนแรง ผู้ป่วยมักจะไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้ หรืออาการร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ หรือมีเสียงดังใน เช่นน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือหินปูนในหูหลุด คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า อาการบ้านหมุนเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน
สำหรับรายที่มีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนมากๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ความดันในเลือดต่ำและอาจเกิดภาวะช็อก ทำให้เกิดอันตรายได้
ทั้งนี้เมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ขณะทำกิจกรรมต่างๆ ควรหยุดนั่งพัก เพื่อป้องกันการหกล้ม กรณีที่มีอาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนมากๆ ควรนอนพักสักครู่ จนอาการดีขึ้นหรือนั่งพัก หลับตา และรีบไปพบแพทย์
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการเลวลง เช่น การหันศีรษะไวๆ การเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว การก้ม เงยคอนานๆ ความเครียด วิตกกังวล อดนอน เป็นต้น ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้