Onlinenewstime.com : เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจสู่ระดับโลก จัดงาน GWM Global Dealer Conference ภายใต้แนวคิด “ONE GWM, LIGHT THE WORLD’” เชิญพันธมิตรทางธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 คนจาก 80 บริษัท กว่า 50 ประเทศทั่วโลก ร่วมประชุมรับฟังความคืบหน้าด้านการดำเนินธุรกิจในปี 2565 พร้อมผนึกกำลังวางแผนการดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆ สำหรับปี 2566 กลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ และการวางแผนผลิตภัณฑ์
โดยการประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเพื่อเป็นการขอบคุณพันธมิตรจากทั่วโลกที่ให้ความไว้วางใจร่วมเดินทางไปกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์การขับขี่ที่อัจฉริยะ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว
ยังเป็นอีกเวทีหนึ่งเพื่อตอกย้ำศักยภาพและความมุ่งมั่นในการสร้างความสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอีกด้วย
นายปาร์คเกอร์ ฉี รองประธานฝ่ายปฏิบัติการตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วย นายเอลเลียต จาง ประธาน ภูมิภาคอาเซียน นายไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป และนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ให้การต้อนรับตัวแทนจำหน่ายและบุคลากรจากออฟฟิศและสำนักงานใหญ่ในตลาดต่างประเทศที่ได้เดินทางมาร่วมงาน GWM Global Dealer Conference ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ภายในงานมีการเผยกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินแผนธุรกิจทั้งในด้านการขาย การบริการหลังการขาย การตลาดและการสื่อสารแบรนด์และองค์กร ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ของตัวแทนจำหน่ายในตลาดของแต่ละประเทศ
รวมไปถึงการมอบรางวัลแก่พาร์ทเนอร์ที่สามารถก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ และประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมทั้งในตลาดระดับประเทศและบนเวทีโลกอีกด้วย
ท่ามกลางความท้าทายด้านเศรษฐกิจและสังคมในปี 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการยานยนต์โลกอย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จอย่างสง่างาม ด้วยยอดขายจากทั่วโลกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 100,208 คัน เพิ่มขึ้น 7.01% จากเดือนก่อนหน้า
พร้อมกับสร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายในตลาดต่างประเทศ 21,052 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 49.58% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
ส่งผลทำให้นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ มียอดขายรถยนต์ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 902,521 คัน โดยในจำนวนดังกล่าวมีรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 107,870 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์อัจฉริยะที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหมู่ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับผลงานยอดเยี่ยมในหลายประเทศ ประเดิมด้วยการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของประเทศแอฟริกาใต้ในเดือนตุลาคม โดยมี HAVAL JOLION ที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นกับยอดขายเกือบกว่า 8,000 คันในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา
จนสามารถคว้ารางวัลรถยนต์นำเข้าน้องใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Top Imported Newcomer Car of the Yar Manufacturing Awards) จากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งแอฟริกาใต้ (National Association of Automobile Manufacturers of South Africa: NAAMSA) มาครอบครอง
ขณะที่ในประเทศออสเตรเลีย ยอดขายรถยนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่า 18,000 คัน เพิ่มขึ้น 26.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังติด 1 ใน 10 แบรนด์รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในเดือนตุลาคมอีกด้วย
ในประเทศไทยเจ้าเหมียวไฟฟ้า 100% ORA Good Ca ยังคงครองอันดับหนึ่งในเซกเมนต์ได้อย่างเหนียวแน่น โดยในปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งมอบ ORA Good Cat ไปแล้วกว่า 4,200 คัน
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเดินหน้าขยายตลาดในทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดแสดงทัพยานยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากหลายรุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2022 และได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ ในประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างดี
นายปาร์คเกอร์ ฉี รองประธานฝ่ายปฏิบัติการตลาดต่างประเทศ เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวเปิดงานพร้อมแสดงความขอบคุณทีมงานและตัวแทนจำหน่ายจากทั่วโลก “สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในขณะนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย
ซึ่งเป็นผลมาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สงคราม โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลก ราคาพลังงาน
อย่างไรก็ตาม ยังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมบนเวทีโลกด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในหลายๆ ตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของพันธมิตรทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและพร้อมดำเนินตามกลยุทธ์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์
โดยมุ่งเน้นในแนวคิดการรับฟังเสียงผู้บริโภคและการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน ส่งผลให้เราสามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น และครองสถานะความเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 นี้ ยังคงเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่ที่มีความอัจฉริยะ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก”
“ท่ามกลางความท้าทายมากมายในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ถึงกระนั้นก็ยังคงมีโอกาสอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า สิ่งสำคัญคือเราต้องกล้าเผชิญหน้าและดำเนินการอย่างทันท่วงที
ด้วยเหตุนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จึงได้จัดทำแผนกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์และการตลาดสำหรับตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่
1) การวางแผนผลิตภัณฑ์ โดยเน้นเจาะแต่ละตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันตามความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละตลาดแต่ยังคงนำมาสู่ความนิยมในระดับโลก ผ่านแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 แบรนด์ คือ HAVAL, TANK, PICKUP, WEY, และ ORA
2) ช่องทางการจำหน่าย โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นและการนำช่องทางดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ รวมถึงนำประสบการณ์และความสำเร็จจากการดำเนินงานในประเทศไทยมาใช้เป็นต้นแบบ
3) การบริหารจัดการด้านการขาย โดยถอดรหัสความสำเร็จจากประเทศจีน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในตลาดประเทศอื่นๆและ
4) การบริการหลังการขาย ยกระดับการบริการลูกค้าด้วยโปรแกรมหลังการขาย อาทิ การรับประกันรถยนต์ การจัดตั้งคลับสำหรับผู้ใช้เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและคำแนะนำต่างๆ จากผู้ใช้จริง เป็นต้น”
นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ยังได้นำคณะผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ และตัวแทนจำหน่ายจากนานาประเทศ เยี่ยมชมบูท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 (The 39th Thailand International Motor Expo 2022)
ซึ่งแขกผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกิจกรรมทดลองขับรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและรถยนต์ที่จะแนะนำออกสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเยี่ยมชม GWM Experience Center และโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จังหวัดระยอง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงแสดงถึงศักยภาพในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของการขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
รวมถึงความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ของบริษัทฯ ในการเดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม
อีกทั้งจะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก”(Global Intelligent Technology Company)
ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมทั้งเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน