Onlinenewstime.com : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์ปะทะกันที่รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ปราบจราจลได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนหลายพันคน ที่ชุมนุมประท้วงบริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี เพื่อกดดันให้รัฐสภายกเลิกการรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
เหตุการณ์บานปลายเมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ พกพาอาวุธและบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน กำลังประชุมรับรองชัยชนะของนายไบเดน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กำลังคุ้มกันและอพยพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดออกจากอาคาร ในขณะที่ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปได้ถึงในห้องประชุม
จากนั้นนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นางมูเรียล บาวเซอร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนจำนวนมากบริเวณใกล้เคียงกับทำเนียบขาว ประกาศไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้ง และเน้นย้ำว่าถูกขโมยผลการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันนายไบเดน ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกแถลงการณ์ เพื่อยุติเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้
ขณะที่ทวิตเตอร์ ได้ปิดบัญชีของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หลังพบว่าทรัมป์ โพสต์คลิปวีดีโอ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่สงบดังกล่าว รวมไปถึงยูทูป ที่ไล่ลบคลิปเหตุการณ์นี้ ด้วยเหตุผลการละเมิดนโยบายการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน เพราะมีเนื้อหาเพื่อเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 ส่วนเฟสบุ๊กก็ให้เหตุผลในการลบ เพราะเป็นเรื่องการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นมาตรการฉุกเฉินของเฟสบุ๊กด้วยเช่นกัน