Onlinenewstime.com : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เสริมแกร่งสู่การเติบโต ในตลาดคอนโดเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค เปิดตัวแนวคิดใหม่ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมปี 2020 กับ ‘Dynamic Personalized Model’
โมเดลการออกแบบ และพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบ และคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) ที่แตกต่างกัน ผนวกเทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่เข้ากับกระบวนการคิดเชิงออกแบบ สู่ผลลัพธ์การพัฒนาที่ ‘เข้าใจ – โดนใจ – มั่นใจ’ เพิ่มขีดการแข่งขัน สู่การส่งมอบคอนโดฯ คุณภาพที่แตกต่าง ทั้งมิติใหม่ของการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง พร้อมโซลูชั่นตอบการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ เดินหน้าประยุกต์ใช้ทุกโครงการใหม่ต่อจากนี้
ประเดิมเผยโฉมอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ‘RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน’ ครั้งแรกของคอนโดฯ ในประเทศไทย กับการพลิกโฉมการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง ตอบอินไซต์การอยู่อาศัยร่วมกันหลายเจนเนอเรชั่น ที่ทุกตารางนิ้ว พร้อมต่อยอดพัฒนาการการเติบโตของเด็กยุคอัลฟ่า ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท (ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร)
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมปี 2020 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างช่วงชิงการเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of Mind)
ดังนั้น เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่การเติบโตควบคู่ ไปกับ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ เอพี ไทยแลนด์ จึงพร้อมเปิดตัวแนวคิดใหม่ ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมปี 2020 กับ ‘Dynamic Personalized Model’ โมเดลการออกแบบและพัฒนา คอนโดมิเนียม ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย
โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการเพื่อให้ได้ คอนซูเมอร์ อินไซต์ ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละโครงการ โดยการผนวก ‘เทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่’ เข้ากับ ‘กระบวนการคิดเชิงออกแบบ’ ทำให้เราสามารถส่งมอบผลลัพธ์การพัฒนาคอนโดยุคใหม่ ภายใต้ 3 คีย์สำคัญ
(1) เข้าใจ (Understand) – ต้องมองลูกค้าให้ชัด ศึกษาให้ลึกแบบเจาะจง เพื่อทราบว่าลูกค้าคือใครและมีรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างไร ที่จะนำมาสู่การพัฒนาคอนโดที่
(2) โดนใจ (Suit) – ตอบโจทย์มากกว่าแค่ฟังก์ชั่น แต่ตอบโจทย์ทั้งคาแรคเตอร์และไลฟ์สไตล์ เสมือนว่าทุกตารางนิ้วถูกสั่งทำพิเศษเฉพาะคน ซึ่งจะนำไปสู่
(3) ความมั่นใจ (Trust) ที่ลูกค้ามีต่อองค์กรว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าได้ตามที่สัญญาไว้”
“ท่ามกลางความท้าทายของตลาดคอนโดมิเนียม เราได้ปรับแผนธุรกิจ เดินเกมด้วยกลยุทธ์รบยาวตั้งแต่ปีก่อน โดยปัจจัยทำเลและแพ็คเกจราคาขายที่จับต้องได้ ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ แต่สิ่งที่ยิ่งทวีความท้าทายในอนาคตก็คือ การเข้าใจถึงพฤติกรรมที่ซับซ้อน แตกย่อยเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้นของผู้บริโภค
ดังนั้น วิธีคิดและกระบวนการออกแบบ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หมดเวลาการทำงานแบบเหมารวมเป็นโลเคชั่น แต่ต้องเจาะให้ลึกถึงดีมานด์จริงของที่ดินแต่ละแปลงแต่ละผืน ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราได้เตรียมความพร้อม ในการทำความเข้าใจถึงลิฟวิ่งแพทเทิร์นที่แตกต่างกันของคนในอนาคต เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการที่ใช่ สำหรับคนในแต่ละกลุ่ม”
ทั้งนี้ แนวคิดในการออกแบบและพัฒนาคอนโดมิเนียม 2020 ผ่าน ‘Dynamic Personalized Model’ ที่จะตอบโจทย์อินไซต์คนเมืองได้อย่างเฉพาะเจาะจง ในแต่ละแปลงที่ดินนั้น ประกอบด้วย 2 แกนสำคัญ ได้แก่ (1) LIVING PATTERNS RESEARCH การศึกษารูปแบบการอยู่อาศัยใน 6 รูปแบบหลัก ที่สะท้อนผ่าน การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ในคอมมิวนิตี้ และ (2) STANFORD DESIGN THINKING APPROACH กระบวนการคิดเชิงออกแบบ เพื่อค้นหาความต้องการแฝง (Emotional Unmet Needs) ของลูกค้าในแต่ละลิฟวิ่งแพทเทิร์น และนำอินไซต์เหล่านั้น มาพัฒนาต่อได้อย่างถูกทาง และเอพี ไทยแลนด์พร้อมเปิตตัวผลลัพธ์แรกอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ด้วยแฟล็กชิพลักชัวรี่คอนโดฯ ล่าสุด ‘RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน’
นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “คอนโดมิเนียม RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ถือเป็นโครงการแรกที่ได้นำแนวคิด Dynamic Personalized Model มาประยุกต์ใช้ ซึ่งในย่านเจริญกรุงนี้ เรามองเห็นโอกาสในการพัฒนาคอนโดใหม่ ที่ยังไม่มีในตลาดเพื่อตอบลิฟวิ่งแพทเทิร์นในแบบ Co-Generations Series ซึ่งเป็นเทรนด์การอยู่อาศัย ของกลุ่มคนเมืองที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายเจนเนอเรชั่น
ดังนั้น ความท้าทายของการพัฒนาโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คือ การออกแบบพื้นที่ที่รองรับการอยู่อาศัยที่เป็นครอบครัว ควบคู่ไปกับ การบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของกลุ่มคนโสด ภายใต้คอนเซ็ปท์การออกแบบ The Luxury Gated Community เพื่อให้ทุกชีวิตเติบโตไปพร้อมกัน ในสังคมที่เพียบพร้อมและปลอดภัย ซึ่งทุกพื้นที่ถูกออกแบบ เพื่อรองรับกิจกรรมที่ทับซ้อนของผู้อยู่อาศัยในแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน พร้อมส่งมอบเวลาคุณภาพภายในพื้นที่คุณภาพ
“สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดติดถนนใหญ่ เส้นถนนเจริญกรุง นับเป็นหนึ่งในทำเลที่มีความท้าทาย เนื่องจากขนาดที่ดินติดถนนใหญ่ ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาโครงการมีอยู่อย่างจำกัด ทำให้มีซัพพลายเปิดใหม่น้อย สวนทางกับดีมานด์ในย่าน เมื่อทำการศึกษาภาพรวมตลาดย้อนหลัง 10 ปี พบว่ามีคอนโดฯ ติดถนนใหญ่ในเส้นเจริญกรุง เพียง 4 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,120 ยูนิตเท่านั้น
แบ่งเป็นเซ็กเมนต์อัลตร้าลักชัวรี่ (300,000 บาท/ตร.ม.) จำนวน 1 โครงการ จำนวน 355 ยูนิต มียอดขายรวม 80% ในขณะที่เซ็กเมนต์ลักชัวรี่ (150,000-190,000 บาท/ตร.ม.) พบ 3 โครงการ จำนวนยูนิตเปิดขาย 765 ยูนิต โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดขายรวม 94% รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาว (Rental Yield) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณ 6-7%”
นายพัชร ชยาสิริ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์คอนโดมิเนียม กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ว่า “การออกแบบพื้นที่ที่รองรับการอยู่อาศัยที่เป็นครอบครัวควบคู่ไปกับการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์ การอยู่อาศัยของกลุ่มคนโสด ประกอบด้วย 3 จุดเด่นสำคัญ
1) OVERLAPPING DESIGN FOR CO-GENERATIONS LIVING การบริหารมาสเตอร์แพลน ที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกัน ทั้งความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กเล็กอย่างสูงสุด ด้วยการแยกส่วนอย่างชัดเจน ระหว่างอาคารพาวิลเลี่ยนออกจากอาคารพักอาศัย พร้อมการแบ่งส่วนพื้นที่เพื่อการใช้งานทั้งแบบครอบครัวและมุมส่วนตัว
2) Separate SECTION for each generation แบ่งสเปซฟังก์ชั่นการใช้งานของผู้อาศัยหลากหลายช่วงวัยให้ทุกๆ คนได้มี ‘เวลาแห่งคุณภาพ’ ในพื้นที่ โดยเฉพาะในส่วน Rooftop Facilities (ชั้น 42-44) ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาทิ Sky Lounge ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่เพื่อการจัดงานสังสรรค์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในขณะที่ Play Space พื้นที่เล่นของเด็กๆ เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง สามารถเฝ้ามองลูกๆ ให้อยู่ในสายตาระยะคลายกังวล และยังสามารถใช้เวลาส่วนตัว อย่างเป็นประโยชน์ได้พร้อมๆ กัน
และที่สุดของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นไฮไลท์ ก็คือ Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ที่ทอดตัวยาวกว่า 47 เมตร พร้อมให้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งจากมุมสูงแบบ 360 องศา โดยส่วนพื้นที่ว่ายน้ำสำหรับเด็กในโซน Kid Pool ถูกออกแบบให้แยกออกจากส่วนที่ลึกของผู้ใหญ่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นสัดส่วนในการใช้งานจริงอย่างชัดเจน
3) THE BEST LIVING QUALITY นอกจากการวางมาสเตอร์แพลน ให้โครงการถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ทั้งแนวกำแพงต้นไม้เล็กใหญ่นานาพันธุ์ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศแล้ว เอพียังทำงานร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบระบบอากาศคุณภาพ ในการนำนวัตกรรม การกรองอากาศอัจฉริยะ (Intelligent Indoor Quality Air for Life System) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่น โดยการติดตั้งเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อากาศที่ไหลเวียนในพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร จะเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ และปราศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5”